ใครๆ ก็สามารถเปิดร้านอาหารได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถ เปิดร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ บทความนี้นำ 10 สิ่งที่ต้องทำ เพื่อให้ร้านอาหารไปรอด และทำกำไรมาฝาก
10 สิ่งที่ต้องทำ ถ้าอยาก เปิดร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ
1. วางแผนธุรกิจให้รอบคอบ
การวางแผนธุรกิจร้านอาหารเป็นขั้นตอนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะจะช่วยให้เจ้าของร้านอาหารกำหนดเป้าหมายในการทำธุรกิจ จัดสรรงบประมาณในการลงทุน กำหนดทรัพยากรที่ต้องใช้ รวมทั้งวางแผนการทำกำไรต่อไปได้
เจ้าของร้านอาหารต้องวางแผนให้รอบคอบและชัดเจน เริ่มต้นจากจะขายเมนูอะไร ให้ใคร กลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร ชอบอะไร มีโอกาสมองเห็นหรือผ่านร้านของเรามากน้อยแค่ไหน
โดยเจ้าของร้านอาหารต้องกำหนด Concept ให้ชัดเจนตั้งแต่แรก เพื่อให้การวางแผนขั้นตอนอื่นๆ ง่ายยิ่งขึ้น และช่วยวางแผนสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกัน
2. เลือกทำเลที่เหมาะสม
ทำเลถือเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อธุรกิจร้านอาหาร หากเลือกทำเลดี ย่อมมีโอกาสขายดีตามไปด้วย
ทำเลที่เหมาะสมสำหรับร้านอาหาร คือทำเลที่เดินทางสะดวก ไม่ซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องติดถนนใหญ่เสมอไป แต่ก็ควรเดินทางง่าย มีที่จอดรถรองรับเพียงพอ
นอกจากนี้เจ้าของร้านอาหารควรเลือกทำเลที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของร้าน โดยต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของผู้คนในละแวกนั้นให้ดี เพื่อนำมาใช้พิจาณาประกอบการเลือกทำเล
3. ควบคุมรสชาติให้นิ่งและมีมาตรฐาน
หัวใจหลักของร้านอาหาร ย่อมหนีไม่พ้นรสชาติและคุณภาพของอาหาร หลายครั้งที่ร้านอาหารต้องสูญเสียลูกค้าดีๆ ไป เพราะรสชาติไม่เหมือนเดิม บางครั้งอาจเกิดขึ้นจากการที่คนทำอาหารทำตามความเคยชินของตัวเอง เมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็เริ่มชินชากับรสชาติ ทำให้ปรุงเพิ่มขึ้นทีละน้อยแบบไม่รู้ตัว จนสุดท้ายรสชาติก็เปลี่ยนไป
บางครั้งอาจเกิดจากการที่พ่อครัวหรือแม่ครัวคนเดิมไม่อยู่ร้าน แล้วขอให้คนอื่นมาช่วยทำอาหารแทน หรือบางครั้งอาจเกิดจากวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงบางอย่างมีรสชาติเปลี่ยนไป เช่น น้ำปลาร้าหมักเค็มกว่าปกติ แต่คนทำอาหารไม่ได้ชิมก่อนนำไปเสิร์ฟลูกค้า จึงไม่รู้ว่า รสชาติอาหารไม่เหมือนเดิม
ทางที่ดีแนะนำให้คุณจดสูตรเอาไว้ให้เป็นมาตรฐาน ต่อให้ปรุงกี่ครั้ง หรือให้คนอื่นมาปรุงแทน รสชาติก็จะยังเหมือนเดิม และสิ่งที่ห้ามลืมเป็นอันขาด นั่นก็คือ การชิมอาหารก่อนเสิร์ฟทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่า รสชาติยังคงได้มาตรฐาน ไม่เค็มเกินไป หวานเกินไป หรือมีรสชาติเพี้ยนไปจากทุกครั้ง นอกจากนี้เจ้าของร้านอาหารต้องไม่ลืมตรวจเช็กคุณภาพวัตถุดิบให้สด ใหม่และสะอาดเสมอ รวมทั้งควบคุมให้อาหารมีปริมาณและราคาที่สมเหตุสมผลด้วยเช่นกัน
4. บริหารต้นทุนให้อยู่หมัด
แม้ว่าเรื่องการเงินและบัญชี จะเป็นเรื่องยากสำหรับเจ้าของร้านอาหาร แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่สามารถหลีกหนีได้ เจ้าของร้านอาหารควรคำนวณค่าใช้จ่ายต่างๆ ของร้านให้เป็น และรู้จัก วิธีบริหารต้นทุน (Cost Control) เพื่อที่จะได้รู้ว่า อัตราส่วนระหว่างต้นทุนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายของร้านเราเป็นเท่าไหร่
โดย 3 สิ่งสำคัญที่ต้องรู้ เพื่อบริหารต้นทุนให้อยู่หมัด ได้แก่
1.จัดการสต๊อกให้เป็นระบบและมีมาตรฐาน ก่อนที่จะเปิดร้านในแต่ละวัน ควรตรวจสอบวัตถุดิบที่เก็บไว้เสียก่อน หากวัตถุดิบไหนใกล้จะหมดอายุแล้ว ให้รีบระบายออกไปโดยเร็ว และหากเห็นว่ามีวัตถุดิบรายการใดคงค้างเยอะ ก็ควรทบทวนและวางแผนการสั่งซื้อวัตถุดิบใหม่อีกครั้ง เพื่อให้สั่งซื้อในปริมาณที่พอดีกับการใช้
2. บริหารจัดการพนักงานให้เหมาะสม โดยกำหนดเข้ากะพนักงานให้เหมาะสม หากช่วงเวลาไหน มีลูกค้าไม่มาก ก็ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานเยอะๆ นอกจากนี้ควรพัฒนาทักษะของพนักงาน ให้คนหนึ่งคนสามารถทำงานได้หลายหน้าที่ เพื่อให้ประหยัดเงินในการจ้างพนักงานเพิ่มอีกหนึ่งคน แต่สิ่งสำคัญคือ ผลตอบแทนที่จ่ายให้กับพนักงานนั้น ต้องสมเหตุสมผลและเป็นธรรม
3. คุมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ภายในร้าน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าโทรศัพท์ ค่าใช้จ่ายในก้อนนี้สามารถควบคุมได้ โดยตั้งกฎระเบียบของร้านเพื่อให้พนักงานทำตาม เช่น ปิดน้ำเมื่อไม่ใช้ ดูแลไม่ให้มีน้ำรั่วซึม ถอดปลั๊กอุปกรณ์ที่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ รวมทั้งหมั่นบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า และระบบประปาภายในร้าน
5. ดูแลพนักงานให้เป็น
“พนักงาน” ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของร้านอาหาร และยังเป็นตัวแปรที่ทำให้ร้านอาหารเกิดความเสียหายได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเจ้าของร้านอาหารควรรู้จักบริหารพนักงานให้เป็น
โดยต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่พนักงานเสมอ ทำให้พนักงานรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของร้าน มาทำงานแล้วมีความสุข ได้รับค่าจ้างและสวัสดิการที่เป็นธรรม มีวันหยุดที่เหมาะสม เป็นไปตามที่ตกลงเอาไว้ตั้งแต่วันสัมภาษณ์งาน
รวมทั้งมีรางวัลตอบแทนความขยันตั้งใจ สร้างแรงจูงใจให้พนักงานมีวินัยมากยิ่งขึ้นด้วย อย่างการให้เบี้ยขยัน หรือให้รางวัลพิเศษสำหรับพนักงานที่ไม่ขาด ลา มาสาย เป็นต้น หากทำยอดขายได้ถึงเป้า ก็ควรแบ่งเงินพิเศษให้พนักงานด้วย
นอกจากนี้ควรพัฒนาทักษะให้พนักงานเสมอ พร้อมกับทำให้พนักงานมองเห็นโอกาสเติบโตของตัวเอง เพื่อให้พวกเขาอยากอยู่กับเราไปนานๆ
6. วางแผนการตลาดเพื่อดีงดูดลูกค้า
หากอยากให้ร้านอาหารของเรามีลูกค้าเข้ามาเยอะๆ บางครั้งอาหารรสชาติดีอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ในยุคที่มีร้านอาหารเป็นตัวเลือกมากมายให้กับลูกค้าแบบนี้ ต้องอาศัยการทำการตลาดร่วมด้วย
การทำการตลาดนั้นไม่จำเป็นต้องใช้งบมหาศาล และทำไม่ยากอย่างที่คิด แม้จะไม่มีประสบการณ์การทำการตลาดมาก่อน ก็สามารถเริ่มต้นเรียนรู้ได้
ตัวอย่างการทำการตลาดร้านอาหารที่หลายร้านนิยมทำ เช่น จัดโปรโมชั่น โดยจัดเซ็ตสุดคุ้มที่มีทั้งอาหารคาว เครื่องดื่ม และขนมหวาน ในราคาที่ถูกกว่าสั่งแยก, เพิ่มไซซ์ในราคาพิเศษ เช่น เพิ่มอาหารจากขนาดกลางเป็นขนาดใหญ่ ในราคาที่ถูกกว่าปกติ, ซื้อ 2 แถม 1 เช่น เมื่อสั่งเครื่องดื่ม 2 แก้ว รับฟรีไปเลยอีก 1 แก้ว, เพิ่มบริการพิเศษ เช่น จัดส่งฟรีในรัศมี 10 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะคิดโปรโมชั่นใดๆ อย่าลืมดูต้นทุน (Food Cost) ของแต่ละเมนูก่อน จากนั้นก็คำนวณว่า โปรโมชั่นแบบไหนอยู่ในงบประมาณที่ร้านของเรารับได้
7. สร้างประสบการณ์ที่ดี ด้วย Service Mind
ถ้าร้านอาหารของคุณมีรสชาติและคุณภาพไม่แตกต่างจากร้านทั่วไป แนะนำคุณเอาชนะด้วย “บริการที่ดี”
การบริการลูกค้าด้วยใจ หรือที่เรียกกันว่า Service Mind นั้น ไม่ใช่แค่การสร้างรอยยิ้มและพูดจาไพเราะ แต่คือความตั้งใจในการบริการ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจ และมองเห็นถึงความใส่ใจของคุณ
ตัวอย่างการบริการที่ดี เช่น หากคุณจำได้ว่า ลูกค้าคนนี้ชื่นชอบเมนูไหนเป็นพิเศษ อาจลองทักทายลูกค้าว่า วันนี้มีเมนูโปรดของลูกค้าด้วย และเมนูนี้ใกล้จะหมดแล้ว อยากรับหรือไม่ หรือคุณอาจลองเสิร์ฟเมนูใหม่ให้ลูกค้าทดลองชิมดูก็ได้
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นบริการที่อยู่เหนือความคาดหวังของลูกค้า ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน
- ทำงบกำไร-ขาดทุนอยู่เสมอ
หากอยากเปิดร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จ ต้องไม่ลืมทำงบกำไรขาดทุนอยู่เสมอ เพราะช่วยให้เจ้าของกิจการมองเห็นที่มาที่ไปของกำไร-ขาดทุนได้ชัดเจนขึ้น และสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และวางแผนดำเนินธุรกิจต่อไปได้
แม้ว่าการทำงบกำไรขาดทุน จะเป็นเรื่องที่ดูยุ่งยาก มีแต่ตัวเลขมากมาย ชวนปวดหัว แต่ก็เป็นสิ่งที่เจ้าของร้านอาหารจำเป็นต้องทำอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะงบกำไรขาดทุน ถือเป็นตัวช่วยสำคัญ ที่จะบอกเราว่า สถานการณ์ของกิจการในเวลานี้เป็นอย่างไร กำลังจะเจ๊ง จะรอด จะรุ่ง หรือมีโอกาสบาดเจ็บหรือไม่
เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับการที่เราคอยตรวจเช็กสุขภาพของกิจการตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้มีโอกาสรักษาได้ทัน หากเสี่ยงขาดทุน ก็สามารถวางแผนทำให้มีกำไรกลับมาได้ หรือหากบาดเจ็บหนักเข้าขั้นวิกฤต ก็สามารถตัดสินใจต่อได้ว่า ควรไปต่อ หรือพอแค่นี้ เพื่อไม่ให้สูญเงินก้อนใหญ่ไปอย่างน่าเสียดาย
9. สร้างระบบให้ร้านอาหาร
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ร้านอาหารประสบความสำเร็จ นอกจากจะเป็นเรื่องของรสชาติอาหารที่ดี สะอาด และมีปริมาณที่คุ้มค่าแล้ว ยังต้องมีระบบร้านอาหารที่ดีด้วย
การวางระบบร้านอาหารที่ดี ทำให้เจ้าของร้านไม่จำเป็นต้องไปเฝ้าร้านเองทุกวัน แม้วันไหนไม่อยู่ร้าน พนักงานในร้านก็สามารถทำงานกันได้อย่างมีมาตรฐาน
โดยระบบร้านอาหารที่สำคัญ ได้แก่ ระบบหน้าร้าน ระบบหลังร้าน ระบบการเงินและบัญชี ระบบบริหารจัดการคน และระบบการตลาด
10. ไม่ลืมเช็กสภาพคล่องของกิจการ
สภาพคล่องของกิจการร้านอาหาร นอกจากจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกิจการของเราได้แล้ว ยังช่วยประเมินความเสี่ยงในการทำธุรกิจได้อีกด้วย
ร้านไหนที่มีความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง ก็แปลได้ว่า ร้านนั้นอาจมีเงินสดหมุนเวียนไม่เพียงพอสำหรับจ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแรงพนักงาน ค่าวัตถุดิบ หรือแม้กระทั่งจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งอาจนำไปสู่จุดจบของร้านอาหารได้
ดังนั้นเจ้าของร้านต้องไม่ลืมเช็กสภาพคล่องของกิจการตัวเองอยู่เสมอ เพราะบางครั้งแม้ว่าดูเผินๆ เหมือนจะมีรายรับเข้ามาเยอะ แต่พอมาดูฝั่งรายจ่ายแล้ว กลายเป็นว่าเงินติดลบ แถมยังมีเงินเหลือสำหรับดำเนินกิจการต่อไปได้แค่ไม่กี่เดือน เรียกง่ายๆ ว่า เงินตึงมือ หรือขาดสภาพคล่องของกิจการนั่นเอง
หวังว่า 10 ข้อข้างต้น จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเปิดร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจไว้
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
6 คำถามที่คุณต้องตอบให้ได้ก่อนคิดจะ เปิดร้านกาแฟให้สำเร็จ
5 ปัจจัยที่มีผลต่อการหา แหล่งซื้อวัตถุดิบ และอุปกรณ์เข้าร้าน ได้ของดีคุมต้นทุนได้