Food Rotation Labels อุปกรณ์ที่ครัวโรงแรมและร้านอาหารเชนใหญ่ ๆ มักใช้ในการช่วยการบริหารจัดการวัตถุดิบ
ในครัวของร้านอาหารหรือโรงแรมขนาดใหญ่ การจัดการวัตถุดิบให้เป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก หากไม่มีระบบที่ดี อาจทำให้วัตถุดิบหมดอายุโดยไม่รู้ตัว นำไปสู่ต้นทุนที่สูญเปล่า และอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพอาหารที่เสิร์ฟให้ลูกค้า
วันนี้แอดขอพามาทำความรู้จักกับ Tool หรือเครืองมือตัวนึงที่ครัวมืออาชีพในโรงแรม หรือร้านอาหารเชนใหญ่ ๆ มักใช้ ซึ่งเจ้าสิ่งนี้เป็นตัวช่วยสำคัญในการบริหารจัดการวันหมดอายุของวัตถุดิบ ทำให้พนักงานสามารถหยิบใช้ของสดก่อนของเก่าได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาการใช้ของผิดลำดับ และช่วยให้การบริหารต้นทุนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นั่นก็คือ Food Rotation Labels หรือบางที่เรียก Daydot แปลไทยก็คือ สติ๊กเกอร์บอกรายละเอียดวัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบอาหารภายในร้านของเรานั่นเอง สิ่งนี้มีวิธีใช้ยังไง ต้องใส่ข้อมูลอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
รายละเอียดที่ควรใส่ลงไปในสติ๊กเกอร์ มีดังนี้เลย
- ชื่อผลิตภัณฑ์ (Product) เพื่อบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นคืออะไร
- ชื่อพนักงานที่เตรียม (Staff Name) เพื่อบอกว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ หรือเป็นคนเตรียม
- การจัดเก็บ (Type) : มีการจัดเก็บแบบไหน เช่น แช่แข็ง (Frozen) แช่เย็น (Chiller) หรือเก็บในอุณหภูมิห้อง (Ambient)
- วันที่-เวลาที่ผลิต (Product Date, Production Time)
- วันที่-เวลาที่หมดอายุ (Expiry Date, Expiry Time)
ข้อ 3-5 เป็นข้อมูลสำคัญที่ต้องใส่ นอกจากส่งผลถึงเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบแล้ว สิ่งนี่ยังช่วยลดการเกิด Waste ที่เกิดจากการเก็บวัตถุดิบเก่า-ใหม่รวมกันได้อีกด้วย
วิธีใช้ก็ง่าย ๆ เลย ถ้าเป็นของสด หลังจากเราทำการล้างหรือตัดแต่งวัตถุดิบลงบรรจุภัณฑ์แล้ว ก็ให้แปะสติ๊กเกอร์ตัวนี้ที่บรรจุภัณฑ์
ส่วนของแห้งและเครื่องปรุง ให้แปะสติ๊กเกอร์ตัวนี้ที่บรรจุภัณฑ์ หลังจากเราเปิดใช้แล้ว
เครื่องมือเล็ก ๆ ชิ้นนี้อาจดูชิ้นเล็กดูไม่สลักสำคัญอะไร แต่กลับมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการบริหารจัดการวัตถุดิบของร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน ป้องกันของเสีย และช่วยให้พนักงานทำงานได้เป็นระบบมากขึ้น
การนำเครื่องมือนี้มาใช้ ไม่ได้จำกัดแค่ครัวโรงแรมหรือร้านอาหารเชนใหญ่ ๆ เท่านั้น แม้แต่ร้านอาหารขนาดเล็กก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ด้วยเช่นกัน เพื่อช่วยให้การทำงานคล่องตัวขึ้น และมั่นใจได้ว่าอาหารที่เสิร์ฟให้ลูกค้ายังคงสดใหม่และมีคุณภาพ
การเริ่มต้นวางระบบร้านอาหารไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดเล็ก หรือร้านขนาดใหญ่ก็สามารถทำได้ การมีระบบที่ดีตั้งแต่ต้นจะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และทำให้ร้านของคุณเติบโตได้อย่างมั่นคง
เจ้าสติ๊กเกอร์ตัวนี้ถือเป็นก้าวแรกที่เริ่มได้ง่ายเลยสำหรับร้านที่อยากสร้างระบบและมาตรฐานให้กับตัวเองเลยค่ะ
หวังว่าบทความที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการและคนที่อยากเปิดร้านอาหารทุกท่านนะคะ มาเริ่มลงมือสร้างระบบที่ดีให้ร้านอาหารตั้งแต่วันนี้กัน 🤗
ฃฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ
- FIFO vs FEFO ทั้ง 2 อย่างนี้ต่างกันยังไง? เลือกใช้งานยังไง?
- Portion Control ทำยังไง ได้บ้าง? 3 ขั้นตอนเริ่มต้นง่าย ๆ สำหรับคนทำร้านอาหาร
- มาตรฐานสูตรอาหาร (Standard Recipes) คืออะไร ทำไมร้านอาหารทุกร้านถึงควรทำ
- Portion Spoons อุปกรณ์สำคัญที่ร้านอาหารยุคใหม่ต้องมี
- เคล็ดลับ นับสต๊อกร้านอาหาร และจัดการวัตถุดิบ ทำเป็นเห็นกำไร
- Standard Recipes กับ SOP 2 อย่างนี้มันต่างกันยังไง?
- วิเคราะห์เมนูในร้านอาหาร ด้วย BCG Matrix เมนูไหนควรไปต่อ? เมนูไหนควรตัดออก?
- วิธีลดต้นทุน เพิ่มกำไร ร้านอาหาร แบรนด์ร้านอาหารใหญ่ ๆ เขาบริหารจัดการต้นทุนยังไง
- วิธีดูแลเครื่องครัวสแตนเลส และทำความสะอาด สำหรับร้านอาหาร
- เช็กระบบก่อนเปิด-ปิดร้าน แจกเช็กลิสต์ที่ควรทำก่อนเปิด-ปิดร้าน
- ทำไมทำร้านอาหารถึงต้องมีเขียงหลายสี? มีประโยชน์อย่างไร
- สั่งวัตถุดิบเข้าร้าน ยังไงให้ลดต้นทุน เปิดเทคนิคการสั่งวัตถุดิบให้พอดีด้วย Inventory Par Level
- คำนวณรายได้เฉลี่ยต่อที่นั่ง วัดประสิทธิภาพการขายให้เป๊ะ! ด้วยสูตร RevPASH
- ครัวที่ดีสัมพันธ์กับต้นทุนอย่างไร เทคนิควางผังครัว ให้เป๊ะ
- ระบบประเมินมาตรฐาน QSC เรื่องพื้นฐานสำคัญ ที่ทุกร้านต้องมี
- Yield คืออะไร สำคัญแค่ไหน เรื่องต้องรู้ก่อนตั้งราคาอาหาร
- วิธีพยากรณ์ยอดขาย (Sales Forecast) อย่างแม่นยำ สำหรับร้านอาหาร