Dots Coffee

Dots Coffee กับความตั้งใจที่จะเปลี่ยนภาพจำของสังคมที่มีต่อผู้พิการทางสายตา ผ่านธุรกิจกาแฟ

 

วันนี้ผมได้มีโอกาสมาคุยกับคุณกาวิน – กาวิน ควงปาริชาติ หนึ่งในผู้ก่อตั้งร้าน Dots Coffee ร้านกาแฟที่ไม่ใช่แค่กาแฟที่ทำให้หลายคนตาสว่าง แต่ยังมีเรื่องราวหลาย ๆ เรื่องที่ทำให้เราได้ตกตะกอนความคิดเกี่ยวกับเรื่องของกลุ่มคนที่เราอาจหลงลืมไปอย่าง ‘ผู้พิการ’ ในสังคมได้มากเลยทีเดีย

คุณกาวินนั้นเติบโตที่อเมริกา แต่เมื่อเรียนจบจึงเดินทางกลับมาทำงานที่เมืองไทย โดยเริ่มทำงานกับองค์กร NGO ที่เกี่ยวกับการพัฒนาชนบท ส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านในต่างจังหวัด คุณกาวินทำงานอยู่ที่นี่ประมาณ 3-4 ปี ก่อนจะตัดสินใจบินไปศึกษาต่อที่อเมริกา จนเรียนจบ MBA ในที่สุด

ในช่วงเรียนจบ คุณจูเลียนเพื่อนที่รู้จักกันมาเกือบ 10 ปี ของคุณกาวินได้เล่าไอเดียร้านกาแฟนี้ให้ฟัง เราฟังแล้วก็สนใจ คุณจูเลียนก็ชักชวนให้มาเป็น founder ที่ Dots Coffee ด้วยกัน นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้น

 

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน, กำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

เริ่มต้นจากที่คุณจูเลียนเคยเปิดร้านอาหาร D.I.D หรือ Dine in Dark ซึ่งคอนเซปต์ของร้านคือ ลูกค้าจะเข้าไปทานอาหารในห้องมืดที่ไม่เห็นอะไรเลยแม้กระทั่งอาหารที่เสิร์ฟลูกค้าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้ทานอะไร โดยในร้านอาหารจะมีพนักงานหรือที่ร้านจะเรียกว่า “ไกด์” ที่เป็นคนพิการทางสายตา คอยนำทางและบริการลูกค้าอยู่ในร้าน

ทั้งหมดนี้ทำเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงโลกของคนที่ตามองไม่เห็นว่า คนพิการทางสายตานั้นมีความสามารถที่สังคมยังไม่เห็นอีกเยอะ ซึ่งร้าน D.I.D เปิดอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาวและได้ผลตอบรับดีมากด้วย แต่ด้วยข้อจำกัดของราคา ทำเล และความต่อเนื่องของคนที่เข้ามาใช้บริการทำให้ร้าน D.I.D อาจจะเติบโตได้ยาก

แนวคิดการทำร้าน D.I.D นั้นทำให้คุณกาวินหันกลับมามองปัญหาในสังคมไทยที่ผู้พิการทางสายตานั้นไม่มีโอกาสในการทำงานเท่ากับคนทั่วไป

 

อาจเป็นรูปภาพของ 2 คน, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

“ส่วนมากพวกเขาจะทำงานนอกระบบ อย่างขายลอตเตอรี่ เปิดหมวกร้องเพลง น้อยมากครับที่จะอยู่ในระบบ หรือแม้ว่าจะอยู่ในระบบก็จริงแต่ตำแหน่งที่พวกเขาได้รับส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สร้าง Value ให้กับองค์กรขนาดนั้น การเติบโตในสายอาชีพเหล่านั้นแทบจะไม่มีเลย ถึงมีก็มีน้อยกว่าคนทั่วไป ” คุณกาวินกล่าว

“จุดนี้แหละที่ผมคิดว่า ’การทำธุรกิจ’ นั้นตอบโจทย์ที่สุด” เพราะการทำธุรกิจเราสามารถทำให้คนอื่นเห็นให้ได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นมีศักยภาพในการทำงาน

ไม่ใช่แค่ทำให้เห็นว่าพวกเขาผ่านการเทรนนิ่งมาเป็นอย่างดีเพียงเท่านั้น แต่ผู้พิการจะได้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ และสร้างผลกำไรได้จริง ๆ เพื่อเป็นโมเดลให้นายจ้างคนอื่นได้เห็นและมั่นใจว่าพวกเขาสามารถจ้างผู้พิการทางสายตาได้

จึงเกิดเป็นไอเดียที่อยากจะต่อยอดร้านอาหารที่ให้โอกาสผู้พิการทางสายตาได้เข้ามาทำงานนั่นเอง

 

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน, เครื่องดื่ม, สถานที่ในร่ม และ ข้อความ

ปิดมาแล้ว 5 ปี ปีแรกนั่นค่อนข้างลำบากเลยทีเดียว

เนื่องจากเป็นร้านแรกที่ให้คนพิการทางสายตาเข้ามาทำงาน มันยากตรงที่ไม่มีต้นแบบ คือตอนนั้นมันใหม่มาก เรามีความเชื่อมั่นว่าพวกเขาทำได้แน่ ๆ แต่ตอนนั้นเราก็ยังไม่รู้จะต้องทำยังไง คุณกาวินเองก็ต้องเรียนรู้ ลองผิดลองถูกกับการทำระบบในร้านจนกระทั่งสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้

ส่วนเรื่องการฝึกน้อง ๆ พนักงานทางร้านจะแบ่งออกเป็น 2 อย่างก็คือ อย่างแรกของเรื่องทฤษฎีเกี่ยวกับความรู้เรื่องกาแฟ เพื่อเวลาที่พนักงานให้บริการกับลูกค้าจะได้ตอบคำถามลูกค้าได้ และยังช่วยโปรโมทคุณสมบัติของกาแฟในร้านอีกด้วย อย่างที่ 2 คือภาคปฏิบัติ ในการใช้งานเครื่อง การทำกาแฟ จัดของ เตรียมร้าน

คุณกาวินให้น้อง ๆ ได้ลองสัมผัส เรียนรู้เครื่องมือต่าง ๆ และฝึกฝนจนชำนาญ แต่ท้ายที่สุดคุณกาวินเองก็ต้องขอ Feedback จากพนักงานกลับมาเช่นกันว่าต้องปรับอะไรบ้าง
”อย่าไปคิดแทนเขา เพราะไม่มีใครรู้ถึงปัญหาของคนพิการทางสายตาได้ดีไปกว่าตัวเขาเองอีกแล้ว” คุณกาวินกล่าวนั่นจึงทำให้ทุกกระบวนการทำงานในร้านจึงมีน้อง ๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมด้วยทั้งหมด
Feedback ของลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้านส่วนใหญ่จะรู้สึกประทับใจกับความสามารถของน้อง ๆ ที่เป็นคนพิการทางสายตา แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่คุณกาวินต้องการก็คือ อยากให้ทุกคน Happy กับรสชาติของกาแฟที่ทางร้านตั้งใจเลือกสรรมาให้ลูกค้าได้ทานด้วย
“เพราะน้อง ๆ เขาก็ตั้งใจทำและมีฝีมือกันจริง ๆ ไม่ได้อยากให้มองแค่น้อง ๆ เป็นผู้พิการที่ทำกาแฟได้เพียงเท่านั้น”

 

อาจเป็นรูปภาพของ 7 คน, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

สักวันการจ้างงานคนพิการจะกลายเป็น ‘เรื่องปกติ’ ในสังคม

 

ซึ่งแม้ร้าน Dots Coffee จะเป็นคนนำร่องการนำผู้พิการทางสายตาเข้ามาทำงานในระบบ และในอนาคตเองคุณกาวินก็ตั้งใจอยากจะขยายสาขาออกไปให้มากที่สุด เพื่อจะได้เพิ่มโอกาสในการทำงานให้กับผู้พิการทางสายตามากขึ้น เพื่อให้ทุกคนคุ้นชินกับความสามารถที่คนพิการทางสายตาสามารถทำได้ รวมไปถึงเจ้าของธุรกิจคนอื่น ๆ อาจจะสนใจอยากจะมอบงานให้กับคนเหล่านี้ดู

เพราะคนส่วนใหญ่เองก็ต้องยอมรับว่าหลายคนนั้นไม่คุ้นชินกับการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนพิการซักเท่าไหร่ เพราะเราแทบจะไม่เห็นพวกเขาในสังคมเลยด้วยซ้ำ นอกจากตามแผงลอตเตอรี่ เปิดหมวกร้องเพลง หรืองานนอกระบบต่าง ๆ ซึ่งมันแทบจะไม่ได้โชว์ศักยภาพที่แท้จริงของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

เหมือนกับว่าสังคมปิดตาคนทั่วไปอย่างเราเช่นกัน ทำให้หลายคนหลงลืมว่าผู้พิการก็มีศักยภาพไม่แพ้กับคนทั่วไป พวกเขาไม่ได้ต้องการความสงสาร แต่ต้องการความเข้าใจและการให้โอกาส และพวกเขาเองก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมเช่นเดียวกับผมและคุณ การมาที่ร้าน Dots Coffee นั้นทำให้เราตาสว่างในเรื่องนี้จริง ๆ

เป็นอีกหนึ่งร้านคุณภาพที่น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่านได้นะคะ มีแนวคิดหลายอย่างที่คนทำร้านอาหารอย่างเราสามารถนำไปต่อยอดได้ไม่ยากเลย 😊 ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้า ฝากติดตาม Torpenguin 🐧 ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร

Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin

 

📌อ่านบทสัมภาษณ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ