Cotti Coffee

Cotti Coffee ม้ามืดร้านกาแฟจากจีน ที่โตเร็วจนกลายเป็นแบรนด์กาแฟที่มีสาขามากเป็นอันดับ 4 ของโลก

 

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าทุกวันนี้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เจอแต่เชนร้านอาหารและเครื่องดื่มของพี่จีนอยู่ทั่วทุกมุม และ “Cotti Coffee” ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ร้านแกจากจีนที่เข้ามาแย่งซีนแบรนด์กาแฟระดับโลกด้วยการเติบโตแบบก้าวกระโดด จนตอนนี้กลายเป็นม้ามืดที่คนทั่วโลกต้องจับตามอง เรื่องราวจะเป็นอย่างไรตามมาดูกันครับ

 

#ทำความรู้จักร้าน

Cotti Coffee เป็นร้านกาแฟที่เกิดขึ้นในจีนโดยคุณ Lu Zhengyao และคุณ Qian Zhiya โดยเริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะนำเสนอเครื่องดื่มคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ เน้นขยายสาขาให้มาก ตามสไตล์กลยุทธ์ของพี่จีน จนทำให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งในตอนนี้ร้านกาแฟเจ้านี้ก็เข้ามาเปิดสาขาในไทยแล้ว โดยมีทั้งหมก 8 สาขา
ในที่ สามย่านมิตรทาวน์, สีลมคอมเพล็กซ์, เซ็นทรัลเวิลด์, เทอร์มินอล 21 พระราม 3, ทรูดิจิทัล พาร์ค, เดอะมอลล์บางกะปิ (อยู่ระหว่างปรับปรุง), เดอะมอลล์บางแค (อยู่ระหว่างปรับปรุง) และ แฟชั่นไอส์แลนด์ 

#ม้ามืดเชนร้านกาแฟจากจีนด้วยกลยุทธ์เน้นขยายสาขา

ใช้กลยุทธ์การทำ Economies of scale เพื่อขยายสาขาทั่วประเทศจีนและต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แบรนด์นี้สามารถครองตำแหน่งเชนร้านกาแฟที่มีสาขามากเป็นอันดับ 4 ของโลก

ร้านนี้มีความพิเศษตรงที่ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มผ่านมือถือได้เอง โดยใช้วิธีการสแกน QR Code ผ่านเบราว์เซอร์ หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อทำการสั่งซื้อและชำระเงินได้ทันทีผ่านแอป ทำให้การสั่งซื้อสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ลดขั้นตอนการรอคิวและเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้บริการ

 

#เม้าท์แซ่บเรื่องสงครามราคากาแฟในจีน

ต้องบอกว่าสถานการณ์ตลาดธุรกิจกาแฟในประเทศจีนตอนนี้ กำลังเผชิญกับแรงกดดันที่รุนแรง หลังจากที่น้องใหม่มาแรงได้เข้ามาสั่นสะเทือนตลาด ทำให้คู่แข่งรายใหญ่เช่น Luckin Coffee และ Starbucks ต้องเผชิญกับปัญหากำไรที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เพราะ Cotti Coffee ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจากผู้บริโภคเพราะด้วยราคาพิเศษ ที่ขายในราคาต่ำกว่า 10 หยวน ในขณะที่ราคากาแฟ Starbucks หรือแบรนด์อื่นๆ ราคาขายอยู่ที่ราวๆ 30 หยวนต่อแก้ว ทำให้เชนร้านกาแฟต่างๆ ต้องกุมขมับหาวิธีงัดสู้กันเป็นแถว 

#สงครามราคา เกมที่ธุรกิจเล็กๆไม่ควรเข้าไปเล่น

สงครามราคาอาจถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดึงดูดลูกค้าได้รวดเร็ว แต่ในความเป็นจริง มันอาจเป็นดาบสองคมสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก เพราะการลดราคาเพื่อแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ทำให้เกิดการหั่นกำไรที่มากเกินไป การบริหารต้นทุนจึงกลายเป็นความท้าทายสำหรับธุรกิจรายย่อย และถึงแม้จะใช้กลยุทธ์นี้อย่างชาญฉลาดในการขยายตัว แต่ต้องระวังผลกระทบระยะยาว การคงราคาต่ำอย่างต่อเนื่องอาจสร้างแรงกดดันทางการเงิน และทำให้ธุรกิจเสี่ยงต่อการขาดสภาพคล่อง

 

#การขยายสาขาที่เร็วเกินไป คือ กับดักในวันที่ธุรกิจเติบโต

การขยายสาขาอย่างรวดเร็วมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณของความสำเร็จ แต่ถ้าเติบโตโดยไม่มีการวางแผนที่ดี อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ การเติบโตอย่างรวดเร็วทำให้ยากต่อการรักษามาตรฐานและคุณภาพในแต่ละสาขา ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจและเกิดความเสียหายต่อแบรนด์ นอกจากนี้ การขยายสาขามาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง เช่น ค่าเช่าและค่าแรงงาน หากไม่คำนึงถึงความพร้อมทางการเงิน ธุรกิจอาจตกอยู่ในภาวะขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว

เพราะฉะนั้นการเติบโตที่ยั่งยืนควรมาจากการวางแผนที่รอบคอบ การบริหารจัดการที่ดี และการเลือกทำเลที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายตัวได้อย่างมั่นคงโดยไม่ตกอยู่ในกับดักของการเติบโตอย่างรวดเร็วจะดีกว่าครับ

 

หวังว่าบทความที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin

 

📌 อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ