การจัดการพนักงาน

อาหารไม่ดีเรายังจ้างเชฟมาแก้ได้ การตลาดไม่ดีเรายังเรียนเพิ่มเติมได้ แต่หลายครั้งเรามีพนักงานที่ดี แต่แปปเดียวเขาก็ลาออก เสียเวลามานั่งหานั่งสอนใหม่ เชื่อว่าคนทำร้านอาหาร คงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หนึ่งในปัญหาของเจ้าของร้านอาหาร คงหนีไม่พ้นเรื่อง "คน" เรียกได้ว่าเป็นส่วนใหญ่เลยแหละ เคยตั้งคำถามกันหรือไม่ว่า ทำไมเชนร้านอาหารขนาดใหญ่ถึงไม่มีปัญหาเรื่องนี้ แม้ว่าบางแบรนด์จะมีการ ขยายสาขา ไปมากมายทั่วโลก วันนี้ผมขอยกตัวอย่าง หลังบ้านของ McDonald's มาให้ดูกันว่าแบรนด์นี้มี วิธีบริหารคน อย่างไร ให้มีมาตรฐานเหมือนกันทุกสาขาทั่วโลก ส่องหลังบ้าน McDonald's วิธีบริหารคน...

“พนักงาน” ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของร้านอาหาร และยังเป็นตัวแปรที่ทำให้ร้านอาหารเกิดความเสียหายได้เช่นเดียวกัน จริงอยู่ว่า คงจะไม่มีใครอยากเจอกับ ปัญหาพนักงานร้านอาหาร แต่ในความเป็นจริงนั้น มักจะหลีกเลี่ยงได้ยาก ปัญหาพนักงานร้านอาหาร ถือเป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของการทำร้านอาหาร ที่สร้างความหนักใจให้เจ้าของร้านหลายต่อหลายคน บทความนี้เราจึงรวบรวมปัญหาสุดฮิตที่เจ้าของร้านส่วนใหญ่มักจะเจอมาฝาก หากรู้และเตรียมตัวรับมือเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็อาจช่วยให้คุณบริหารจัดการพนักงานได้ง่ายยิ่งขึ้น 1. หาพนักงานยาก โดยเฉพาะพนักงานมือดี เจ้าของร้านอาหารหลายคนมักจะเจอเรื่องปวดหัวตั้งแต่เริ่มต้นเปิดร้าน เพราะหาพนักงานที่ตรงใจไม่ได้สักที แม้ว่าจะปิดประกาศรับสมัครงานไว้ตามที่ต่างๆ ก็แล้ว โพสต์ลงในเว็บไซต์หางานก็แล้ว แจกใบปลิวก็แล้ว แต่ก็ยังเงียบกริบ หรือไม่ก็เจอแต่คนที่ไม่ตรงสเปก ไม่มีทักษะตามที่ต้องการ หากเจอปัญหาเหล่านี้...

ร้านเราทำไม พนักงานลาออก บ่อย คำถามที่เจ้าของร้านควรต้องรู้คำตอบ หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการทำร้านอาหารให้ประสบความสำเร็จก็คือ การมีพนักงานหรือทีมงานที่ดี ทั้งในส่วนของหน้าร้านและหลังร้าน ซึ่งการทำงานของพนักงานที่เป็นระบบเเละทำงานได้ดี ก็เป็นส่วนที่ช่วยให้ร้านสามารถก้าวต่อไปได้อย่างไม่มีสะดุด . แต่ปัญหาหลัก ๆ ที่เจ้าของร้านส่วนใหญ่มักจะเจอก็คือ " พนักงานลาออก " ซึ่งการที่พนักงานลาออกเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง ปัญหาส่วนตัว สาเหตุหลัก ๆ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้อัตราการลาออกของพนักงานในร้านอาหารสูงนั่นก็คือ ปัญหาส่วนตัว ซึ่งถือเป็นปัญหาคลาสสิกที่ร้านอาหารทุกร้านต้องเจอ เช่น การทะเลาะเบาะแว้ง...

เหลือเวลาอีกไม่นาน ร้านก็จะเปิดแล้ว แต่ยังหาพนักงานร้านที่ตรงใจไม่ได้เลย ทำไงล่ะทีนี้ มาลองดูเทคนิคและ วิธีหาพนักงานร้านอาหาร แบบขั้นเทพ ได้พนักงานตรงใจ ลดปัญหาทำงานได้ไม่นานก็ลาออก มาดูเทคนิคเหล่านี้กัน แชร์เคล็ดลับ วิธีหาพนักงานร้านอาหาร ขั้นเทพ รู้ว่าต้องการหาอะไร? แน่นอนว่า เจ้าของร้านต้องรู้ว่าร้านของคุณนั้น เป็นร้านอาหารประเภทไหน เพราะร้านอาหารแต่ละประเภท ก็ย่อมใช้ความสามารถของพนักงาน และจำนวนของพนักงานที่จำเป็นก็แตกต่างกันไป จึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องหาคนให้สอดคล้องกับประเภทร้านของเรา เช่น ถ้าร้านของคุณเป็นร้านอาหารประเภทเน้นการให้บริการที่รวดเร็ว หรือ Quick Service คล้ายประเภทฟาสต์ฟู้ด...

หนึ่งในปัญหาของการทำร้านอาหาร ที่สร้างความหนักใจให้กับเจ้าของร้านหลายต่อหลายคน นั่นก็คือการ หาพนักงานร้านอาหาร ทั้งพนักงานเสิร์ฟ และพนักงานในครัว กว่าจะได้คนที่ทำงานดีและตรงใจ ก็เล่นเอาแทบจะท้อ ยิ่งกว่านั้น บางคนมาทำงานได้แค่ไม่กี่วัน ก็ขอลาออกไปเสียแล้ว หรือบางคนอยู่ๆ ก็หายไปดื้อๆ โดยไม่บอกไม่กล่าวเลยก็มี หากคุณกำลังเจอกับปัญหานี้ และไม่รู้ว่าจะหาพนักงานร้านอาหารดีๆ ได้จากที่ไหน บทความนี้มีคำแนะนำมาฝาก ทำไมหาพนักงานไม่ได้ + ค่าจ้างถูกเกินไปหรือเปล่า: อันดับแรก เจ้าของร้านอาหารต้องลองย้อนกลับมาเช็กตัวเองดูก่อนว่า ค่าจ้างที่ให้กับพนักงานนั้นน้อยเกินไปหรือเปล่า ทางที่ดีควรสำรวจฐานเงินเดือนในท้องตลาดดูก่อน หากค่าจ้างของคุณต่ำกว่าคู่แข่ง หรือร้านในละแวกใกล้เคียงกันมาก...

ปัญหาใหญ่ของคนทำร้านอาหารที่แทบจะพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยก็คือ ปัญหาเรื่องคน และที่หนักก็คือเรื่อง การโดนพนักงานโกง นั่นเอง เรียกว่าเจอกันมาสารพัดวิธี ใครกำลังเป็นเจ้าของร้านมือใหม่ รู้ไว้ก่อนเลยสำหรับ กลโกงในร้านอาหาร เพื่อเตรียมรับมือและหาวิธีป้องกัน เพราะคุณอาจจะเจอหนึ่งในกลโกงเหล่านี้ก็ได้ สารพัด กลโกงในร้านอาหาร ปัญหายอดฮิตที่เจ้าของร้านอาจต้องเจอ แอบกินของในร้าน เริ่มที่ปัญหาที่หลายคนอาจจะมองว่า ก็ดูเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ให้เค้ากินไปเถอะ แต่ต้องเข้าใจเจ้าของร้านด้วยว่า ทุกอย่างคือต้นทุนวัตถุดิบทั้งนั้น และถ้าทำบ่อย ๆ มากขึ้น หรือลหนักถึงขั้นขโมยวัตถุดิบกลับบ้าน เจ้าของร้านได้ปวดหัวแน่นอน บันทึกยอดขายไม่ตรงกับยอดจริง ปัญหาคลาสิกที่เจอกันบ่อยมาก เนื่องจากทำได้ง่าย โดยเฉพาะร้านที่ยังไม่ได้ใช้ระบบคิด...

วิธีหาจำนวนพนักงาน ร้านเราควรมีพนักงานกี่คน ต้องคำนวณยังไง? แม้จะมีเทคโนโลยีทุ่นแรงเข้ามาช่วยให้เราบริการจัดการร้านได้ง่ายขึ้น เป็นระบบมากขึ้น และมีต้นทุนที่ต่ำลง แต่ ‘คน’ ยังเป็นส่วนสำคัญที่เราต้องให้ความสำคัญ และเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ร้านเติบโตอย่างต่อเนื่อง นั้นก็เพราะ หุ่นยนต์ ยังไม่สามารถเข้าถึงอารมณ์และความรู้สึกที่ซับซ้อนของมนุษย์ และลูกค้ายังต้องการการพูดคุยกับคน ‘คน’ ยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ร้านของเราเติบโต สำหรับการหาจำนวนพนักงานที่เหมาะสมในร้าน เราต้องเริ่มพิจารณาจาก 1. ดูตามความเหมาะสมของประเภทร้าน ขนาดของร้าน และประสบการณ์ของลูกค้า - ประเภทของร้าน เช่น ร้านที่มีบริการแบบ Full service จะใช้คนในส่วนของการบริการมากกว่าธุรกิจบุ๊ฟเฟต์แบบบริการตัวเอง - ขนาดของร้าน...

ปัญหาลูกน้องชอบ เบิกเงินล่วงหน้า ถือเป็นปัญหาหนักอกหนักใจที่เจ้าของร้านอาหารหลายคนต้องเจอ โดยเฉพาะกับร้านอาหารที่เจ้าของให้อิสระในการจ่ายเงินกับลูกน้อง สามารถเบิกเงินได้ก่อนเวลา หรือไม่ได้มีเวลาที่แน่นอนในการจ่ายเงิน เจ้าของร้านอาหารหลายคนเมื่อได้ยินว่าลูกน้องลำบาก มีปัญหากับชีวิต หรืออยู่ในช่วงที่ขัดสนเงินทอง ชักหน้าไม่ถึงหลัง ก็มักจะใจอ่อน หยวนๆ ให้เบิกเงินล่วงหน้าได้  ฟังดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาอะไร แค่เบิกเงินไปใช้ก่อนเวลาที่เงินเดือนออกเท่านั้น…แต่ความจริงแล้ว การเบิกเงินล่วงหน้า อาจกลายเป็นปัญหาตามมาภายหลังได้  เพราะหลายครั้งเมื่อเบิกเงินไปแล้ว ลูกน้องคนดีคนเดิมกลับหายตัวไป ไม่ยอมมาทำงาน บ้างก็อ้างลูก เมียป่วยสารพัด บ้างก็หายไปเสียดื้อๆ ไม่ใช่แค่นั้น กว่าจะได้เงินคืนกลับมาก็นานแสนนาน และส่วนใหญ่ถ้าลูกน้องคนนั้นลาออกไป เจ้าของร้านก็มักจะต้องสูญเงินที่เขาเบิกไปด้วย หากใครกำลังกลุ่มใจกับปัญหาลูกน้องชอบเบิกเงินล่วงหน้าบ่อยๆ จนเสียระบบ...

ติยังไงให้ได้งาน ศิลปะสำหรับการ 'ติติง' ติยังไง? ให้ได้งานและไม่ทำร้ายจิตใจลูกน้อง   ผมมักเป็นคนพูดชัด ๆ ตรง ๆ เพราะกลัวจะสื่อสารผิด แต่บางทีมันก็ทำร้ายความรู้สึกคนอื่นโดยไม่รู้ตัวครับ เรื่องนี้เป็นปัญหาของคนเป็นเจ้านายและหัวหน้าหลายๆ คนเลย ที่ต้องพูดติลูกน้องยังไงให้เขาไม่รู้สึกลบกับเรา แต่ก็ต้องให้เขารู้สึกอยากจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นด้วย วันนี้เรามาเรียนรู้ศิลปะแห่งการติติงกันครับ   หากจะตำหนิใคร ๆ ลองเอ่ยด้วยคำที่ "คาดหวัง"   พยายามบอกให้เขารู้สึกว่าเรา “คาดหวัง” กับเขามากกว่านี้ มากกว่าที่เขาทำออกมาในตอนนี้ แทนที่จะบอกว่าเราผิดหวังในตัวเขา ด้วย 4...

การพูดตรงไปตรงมา อาจเป็นเรื่องยากสำหรับสังคมไทย เพราะเราถูกสอนมาให้พูดโดยถนอมน้ำใจจากผู้อื่น รวมไปถึงการพูดวกวนไปมาเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ แต่รู้หรือไม่ว่าในการทำธุรกิจในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจเอง การพูดตรง ๆ จะสามารถสื่อสารกันได้ชัดเจนกว่าการพูดอ้อม ๆ แต่ต้องมีศิลปะในการพูดที่ดี ไม่ใช่ใช้อารมณ์หรือพูดแบบขวานผ่าซากจนเกินไป   ผมคิดว่าการพูดตรงไปตรงมาจะส่งผลดีกับการทำงานมากกว่า เพราะเมื่อทีมหรืออีกฝ่ายรู้แน่ชัดว่าอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่ ก็จะไม่เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด ทุกฝ่ายก็จะสามารถทำงานไปในทิศทางเดียวกันได้โดยไม่เกิดการเข้าใจผิดขึ้น แต่หาเราพูดไม่ตรงประเด็น มัวแต่ประดิษฐ์คำหรือพูดอ้อมค้อมมากเกินไป มันมีความเป็นไปได้สูงว่าคนที่รับสารอาจจะเข้าใจผิด และไปทำในสิ่งที่ผิดต่อไป   เมื่อเกิดความเข้าใจผิดที่มาจากการสื่อสารมันจะทำให้คุณเสียเวลาแก้ไข และสิ่งที่จะตามมาถ้าคุณพูดตรงไปตรงมาคือการทำงานจะไหลลื่นมากขึ้น ซึ่งอย่าลืมว่าความเร็วคือหัวใจของการทำธุรกิจ ดังนั้นแทนที่จะพูดแบบอ้อมค้อม หรือพูดมัวแต่นึกถึงความรู้สึกอีกฝ่าย ผมแนะนำให้พูดความคิดเห็นของตัวเองไปเลยดีกว่าครับ เช่น...