Catchment Area และ Trade Area 2 สิ่งที่ต้องดูก่อนตัดสินใจเช่าทำเลทำร้านอาหาร
ถ้าคิดจะเปิดร้านอาหารแล้วละก็ เรื่องทำเลคือโคตรสำคัญ อย่าคิดว่าแค่อร่อยก็พอ หรือแค่เลือกที่ที่คนเดินผ่านเยอะ ๆ เดี๋ยวก็ขายดีเอง คิดแบบนี้บอกเลยว่าเจ็บกันมาหลายรายแล้ว
เรื่องสำคัญที่อยากให้ดูจริง ๆ นอกจากเงินในกระเป๋าตังและความสะดวกของเราแล้ว อยากให้ดูเรื่อง พื้นที่ฐานลูกค้า (Catchment Area) และ พื้นที่การค้าของร้าน (Trade Area) ด้วย
ทั้ง 2 อย่างนี้คืออะไร?
พื้นที่ฐานลูกค้า หรือ Catchment Area
คือ พื้นที่ที่ลูกค้าของเรามักจะมาจับจ่ายหรือใช้บริการร้านของเรา คิดง่าย ๆ ว่าเป็นโซนที่คนอยู่หรือทำงานในระยะที่ “สะดวกเดินทางมา” จริง ๆ
Catchment Area มี 2 แบบหลัก ๆ
1. แบบระยะทาง (Distance-based Catchment Area)
เป็นการวัดจากระยะทางจริง เช่น รัศมี 500 เมตร, 1 ก.ม. รอบร้าน การวัดแบบระยะทางจริงมักใช้กับโมเดลร้านประเภท Grab & Go หรือร้านสะดวกซื้อ ส่วนใหญ่มักใช้การวัดแบบนี้ เพราะลูกค้ามักจะเดินมาซื้อของจากจุดที่ใกล้สุด
2. แบบระยะเวลา (Time-based Catchment Area)
เป็นการวัดจากระยะเวลาที่ลูกค้ายอมใช้เดินทางมาหาเรา เช่น ภายใน 5 นาทีเดินถึง หรือ 10 นาทีขับรถถึง
การวัดแบบนี้เหมาะกับร้านอาหารที่เน้นประสบการณ์ เช่น ร้านบุฟเฟ่ต์ คาเฟ่สวย ๆ หรือร้านอาหารที่มีเมนูพิเศษ มักใช้วิธีนี้ เพราะลูกค้ายอมเดินทางนานขึ้นเพื่อมากิน
การกำหนด Catchment Area ต้องดูปัจจัยพวกนี้ด้วย
– พฤติกรรมของลูกค้า
กลุ่มนี้เขาใช้ชีวิตยังไง? ออกไปทำงานเช้ากลับค่ำ หรือเป็นแม่บ้านที่อยู่บ้านทั้งวัน?
– ความสะดวกในการเข้าถึงร้าน
มีที่จอดรถไหม? เดินทางสะดวกแค่ไหน? คนต้องอ้อมมาไกลไหม?
– คู่แข่งในพื้นที่
ถ้ามีร้านแนวเดียวกันอยู่เยอะ เราต้องหาจุดต่างให้ได้ ไม่งั้นลูกค้าเขาก็ไม่เปลี่ยนมาหาเรา
อย่าลืม Take time กับตรงนี้เยอะ ๆ สำรวจพื้นที่รอบ ๆ ให้แน่ใจว่ามันมี “ลูกค้าตัวจริง” ไม่ใช่แค่เห็นคนเดินเยอะแล้วคิดว่าเป็นที่ของเรา
พื้นที่การค้าของร้าน หรือ Trade Area
คือ ขอบเขตที่ลูกค้าของร้านเรายอมเดินทางมาเพื่อมากินหรือซื้อสินค้า เพราะไม่ใช่ทุกคนจะเดินข้ามเมือง ฝ่ารถติด มาหาเรานะ ซึ่งร้านอาหารแต่ละประเภทก็มี Trade Area ไม่เท่ากันอีก
ร้านกาแฟอาจจะมี Trade Area แค่ 500 เมตรรอบร้าน เพราะคนมักจะซื้อจากที่ที่ใกล้สุด ร้าน Street Food ที่อยู่บนถนนเส้นหลัก อาจมี Trade Area กว้างขึ้นเพราะคนขับรถผ่านไปผ่านมาบ่อย
สิ่งที่เราต้องวิเคราะห์คือ คนที่เดินผ่านร้านเรา กับ คนที่ตั้งใจเดินทางมา เยอะขนาดไหน ร้านประเภท Fast Food, Street Food หรือ Grab & Go ที่ต้องการลูกค้าเดินผ่านเยอะ ๆ ส่วนร้านที่มีที่นั่งและประสบการณ์กินดี ๆ อาจต้องพึ่งพาคนที่ตั้งใจมา
”คิดให้ดี คิดหลาย ๆ ตลบ ก่อนตัดสินใจเลือกทำเล”
อย่าลืมก่อนเปิดร้าน เราต้องรู้ว่า Catchment Area ของเรามีลูกค้าแบบไหน และ Trade Area ของร้านมันกว้างแค่ไหน
อย่าเลือกทำเลแค่เพราะราคาถูก หรือเพราะเราชอบ หรือเอาที่ใกล้บ้านเอาที่สะดวก ทางที่ดีให้เราลงพื้นที่ไปดูของจริง ไม่ใช่ไปดูแค่วันสองวัน แต่ให้ดูยาว ๆ ซักระยะเลย แล้วสังเกตพฤติกรรมคน ดู Trafic ดูปริมาณรถ ดูป้ายโฆษณาแถว ๆ นั้น แล้วประเมินให้ดีก่อนลงทุน
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ประการทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ
- ทำไมต้องทำ Feasibility Study ก่อนลงทุนทำร้านอาหาร? มันช่วยอะไรเราได้บ้าง?
- แจกเทคนิควิเคราะห์ทำเล ว่าคุ้มกับค่าเช่าหรือไม่
- เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวทำไมถึงเจ๊ง ? เปิด 5 สาเหตุที่ทำให้ร้านเจ๊งไม่เป็นท่า แม้จะอร่อยก็ตาม
- ธุรกิจร้านอาหารปี 2025 ภาพรวมจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมขนาดไหน?
- ทำเลในคอมมูนิตี้มอล เลือกยังไง ? สิ่งที่ต้องคิดให้ดีก่อนตัดสินใจเช่าพื้นที่
- แจกเทคนิควิเคราะห์ทำเล ว่าคุ้มกับค่าเช่าหรือไม่
- หาทำเล เปิดร้านก๋วยเตี๋ยว เปิดยังไงให้ได้กำไร
- เปิดร้านในตึกแถว เลือกทำเลยังไงให้โดนลูกค้าตัวจริง