เคล็ดลับดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์

เคล็ดลับดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์ ให้สดใหม่เหมือนพึ่งซื้อ สำหรับร้านอาหาร

 

การทำอาหารให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน ไม่ใช่เพียงรสชาติของอาหารที่มีความอร่อยอย่างสม่ำเสมอ แต่การเลือกซื้อและจัดการวัตถุดิบที่ดีก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน

บางครั้งเราเลือกซื้อวัตถุดิบในปริมาณมาก ๆ เพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง และประหยัดเวลาในการจัดหาวัตถุดิบ

แต่ขาดการจัดเก็บที่ดี อาจส่งผลเสียกับวัตถุดิบได้โดยเฉพาะกลิ่นคาว เพราะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงบ่อยระหว่างการขนส่ง ทำให้จุลินทรีย์เติบโตได้ดีทำให้เกิดกลิ่นคาวและอาจเน่าเสียในที่สุด

 

แล้วยิ่งถ้าคุณเปิดร้านอาหาร เรื่องคุณภาพวัตถุดิบเป็นเรื่องสำคัญมาก! โดยเฉพาะกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ถ้าไม่จัดการให้ดี อาหารที่เสิร์ฟอาจไม่น่าทาน วันนี้ Cook วงใน เรามีเทคนิคง่าย ๆ ในการขจัดกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์แต่ละประเภทมาฝากกัน!

เนื้อไก่

เนื้อไก่เป็นโปรตีนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู มีราคาไม่สูงมาก เพิ่ม value ได้ง่าย

เนื้อไก่ที่ซื้อมาในบางครั้งจะมีกลิ่นเหม็นคาวที่เกิดจากจัดเก็บตั้งต้นไม่ดี หรือได้รับความเย็นที่ไม่เพียงพอ หรือหากไม่ได้รับการจัดเก็บที่เหมาะสมก็อาจทำให้เนื้อไก่มีกลิ่นเหม็นคาว ซึ่งมีวิธีง่าย ๆ ในการจัดการกลิ่นคาวเนื้อไก่ ดังนี้

เกลือแกง
คลุกเคล้าเนื้อไก่กับเกลือแกง ถูเบาๆให้ทั่ว หมักไว้ประมาณ 1 นาที ล้างน้ำให้สะอาดก่อนซับให้แห้งแล้วนำไปประกอบอาหาร


เบกกิ้งโซดา
แช่เนื้อไก่ในน้ำผสมเบกกิ้งโซดา อัตราส่วน น้ำ 1 ลิตร : เบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชา นำไปแช่ตู้เย็น 1 ชั่วโมง ล้างน้ำสะอาดแล้วซับให้แห้งก่อนจัดเก็บหรือนำไปประกอบอาหาร


หมักนมสด
นำเนื้อไก่ไปหมักกับน้ำนม น้ำนมจะช่วยดูดกลิ่นคาวของเนื้อไก่ออกไป และทำให้เนื้อไก่มีความนุ่มชุ่มฉ่ำมากขึ้น


เครื่องเทศ
หมักเนื้อไก่กับเครื่องเทศ เช่น รากผักชี กระเทียม พริกไทย ตะไคร้ ฯลฯ ก็จะช่วยลดกลิ่นคาวและทำให้เนื้อไก่มีกลิ่นหอมน่ารับประทานยิ่งขึ้น

เนื้อหมู

เนื้อหมูส่วนใหญ่จะมีโครงสร้างเนื้อที่แน่นและมีกลิ่นสาบเฉพาะตัว ถ้าเราจัดการวัตถุดิบไม่ดีจะทำให้เนื้อหมูมีกลิ่นคาว ไม่น่ารับประทานได้ ซึ่งเราสามารถดับกลิ่นคาวเนื้อหมูได้ง่าย ๆ ดังนี้

เกลือ
คลุกเคล้าเนื้อหมูกับเกลือแกง ถูเบาๆให้ทั่ว ประมาณ 1 นาที ล้างน้ำให้สะอาด ก่อนซับให้แห้งแล้วนำไปประกอบอาหาร


น้ำส้มสายชู
ล้างเนื้อหมูด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ ใช้อัตราส่วน น้ำเปล่า 1 ลิตร : น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ นำเนื้อหมูลงไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที แล้วล้างน้ำให้สะอาด ก่อนซับให้แห้งแล้วนำไปประกอบอาหาร


น้ำซาวข้าว
แช่เนื้อหมูในน้ำซาวข้าว ประมาณ 5-10 นาที ล้างน้ำให้สะอาดแล้วซับให้แห้งก่อนนำเนื้อหมูมาใช้


เครื่องเทศ
ใส่เครื่องเทศต่างๆ ลงหมักกับเนื้อหมู จะช่วยให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทานยิ่งขึ้น

เนื้อวัว

เนื้อวัวมีกลิ่นสาบคล้ายเนื้อหมู แต่วิธีขจัดกลิ่นคาวจะต่างออกไป หลักการง่าย ๆ ในการลดกลิ่นสาบหรือกลิ่นคาวในเนื้อวัว คือ จัดการเลือดที่พื้นผิวของเนื้อออกให้ได้มากที่สุดก่อนนำไปปรุงอาหาร ด้วยวิธีดังนี้

ซับเลือดออก
ใช้กระดาษเอนกประสงค์ซับเลือดวัวให้แห้ง ก่อนนำไปปรุงอาหาร


เกลือแกง
ทาเกลือแกงลงบนเนื้อวัวถูเบาๆ ประมาณ 2 นาที ก่อนล้างผ่านน้ำและซับให้แห้ง


แช่เหล้าขาว
แช่เนื้อวัวในน้ำเปล่าผสมเหล้าขาว อัตราส่วน น้ำ 1 ลิตร เหล้าขาว 2 ช้อนโต๊ะ นานประมาณ 10 นาที ก็จะช่วยลดกลิ่นคาวในเนื้อวัวได้


เครื่องเทศ
ใช้ขิง กระเทียม หรือสมุนไพรช่วยดับกลิ่น ลงในเมนูอาหารที่มีเนื้อวัวเป็นส่วนประกอบจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและดับกลิ่นคาวได้

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการจัดเก็บวัตถุดิบ

หลังจากลดกลิ่นคาวแล้ว การจัดเก็บวัตถุดิบหลังจากนั้นก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดนั่นก็คืออุณหภูมิในการขนส่งและการจัดเก็บ ที่จะทำให้วัตถุดิบของเรา คงความสดใหม่อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

แช่เย็น – ควรเก็บเนื้อสัตว์ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-4 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันการเติบโตของแบคทีเรีย

แช่แข็ง – หากต้องการเก็บเนื้อสัตว์เป็นเวลานาน ควรแช่แข็งที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียสขึ้นไป

จัดเก็บแยกประเภท – ไม่ควรเก็บเนื้อสัตว์รวมกัน ควรแยกเป็นเนื้อไก่ เนื้อหมู และเนื้อวัว เพื่อลดการปนเปื้อนข้ามชนิด

ใช้ภาชนะที่เหมาะสม – ควรใช้ถุงซิปล็อกหรือภาชนะสุญญากาศ เพื่อลดการสัมผัสกับอากาศและคงความสดของเนื้อสัตว์

 

เพียงทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ คุณก็จะสามารถรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบและเพิ่มคุณภาพให้กับเมนูอาหารในร้านของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมาขึ้นแล้ว

 

หวังว่า เคล็ดลับดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์ จากเชฟหมี Cook วงในที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกคนนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin และ Cook วงใน ทุกช่องทาง ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 🥰

 

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร

Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : @torpenguin
YouTube: Torpenguin

 

👉🏻 อ่านบทความ Cookวงใน อะไรต่อดี?