รู้ทันกลโกงพนักงาน

รู้ทันกลโกงพนักงาน ที่กว่าจะรู้ตัวอาจสายเกินไป

 

ต้องบอกก่อนเลยว่า ไม่มีทางไหนที่จะสามารถป้องกันการทุจริตได้ 100% และถ้าร้านไหนที่คิดว่าร้านเราไม่มีการทุจริตแน่นอน นั่นอาจจะเป็นเพราะคุณอาจยังไม่รู้ว่าเกิดการทุจริตก็เป็นได้

แต่ถ้าคุณไม่เริ่มนับหนึ่งในการสนใจเรื่องเหล่านี้ ต่อให้คุณขายของดีแค่ไหน ได้กำไรมามากแค่ไหน ถ้าคนในร้านของคุณจ้องแต่จะทุจริต เงินที่คุณอุตส่าห์หามาแทบตาย มาหายออกไปแบบไม่รู้ตัวไม่นานร้านคุณคงแย่แน่ ๆ

 

ซึ่งวิธีการที่พนักงานของร้านจะทุจริตนั้นมีหลากหลายวิธีการ ไม่ว่าจะด้วยตัวคนเดียวหรือเป็นทีม ซึ่งวิธีการที่พบได้บ่อยมีอะไรบ้าง วันนี้จะพาไปดูกัน ขอเริ่มแบ่งเป็น 2 หมวดใหญ่ ๆ ดังนี้เลย

 

ทุจริจภายในร้าน

 

รู้ทันกลโกงพนักงาน

– ขโมยเงินค่าวัตถุดิบ

หากร้านคุณใช้วิธีเอาเงินสดให้พนักงานไปซื้อของที่ตลาด คุณจะมั่นใจได้ยังไงว่าราคาที่พนักงานซื้อจะใช่ราคาขายของร้านนั้นจริง ๆ หรือค่ารถที่พนักงานบอกคุณจะตรงกับความเป็นจริง ยิ่งราคาผักที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วันด้วยแล้ว หากพนักงานทุจริตเงินคุณไป 200 บาท คุณแทบจะไม่สามารถรู้ได้เลย แต่เกิดเค้าทำแบบนี้มาเป็นระยะเวลา 1 ปี คุณลองคิดดูว่ากำไรคุณจะหายไปเท่าไหร่

 

– ขโมยเงินจากยอดขายของร้าน

หากร้านอาหารคุณไม่ได้ทำการติดตั้งระบบคิดเงิน (POS) และไม่มีนับปริมาณอาหารหรือจำนวนเมนูที่ขายไปแต่ละวันแล้วนั้น คุณจะไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่าจริงๆแล้ววันนี้คุณขายได้ยอดขายเท่าไหร่กันแน่ เพราะมันง่ายมากที่แคชเชียร์จะเก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเมื่อลูกค้าจ่ายเป็นเงินสด

 

– การ void เพื่อเก็บส่วนต่าง

ในกรณีที่ร้านคุณมีระบบ POS ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางเกิดการทุจริต โดยมากเจ้าของร้านจะมอบหมายให้ผู้จัดการร้านหรือแคชเชียร์เป็นคนที่สามารถคิดเงินหรือใช้ระบบ POS เท่านั้น และใน POS นั้นจะมีฟังก์ชั่นให้สามารถ Void หรือยกเลิกบิลได้ ในกรณี เช่น ลูกค้าย้ายโต๊ะ คิดเงินลูกค้าผิด สั่งเมนูผิด

แต่นั่นก็เท่ากับคุณเปิดโอกาสให้พนักงานทุจริตด้วยเช่นกันหากระบบ POS นั้นไม่สามารถจำกัดสิทธิ์การ Void หรือรายงานการ Void ทุกครั้งได้

ยกตัวอย่างเช่น พนักงานคิดเงินลูกค้าปกติ 6 เมนูเป็นเงิน 900 บาท แต่พอถึงเวลาเก็บเงินพนักงานอาจจะทำการ Void ออกไป 1 เมนู แล้วใส่เงินลงในเก๊ะเพียงแค่ 700 บาท โดยคุณก็ไม่มีทางรู้ว่าที่ยกเลิกไปนั้นเพราะ คิดเงินลูกค้าผิด อาหารมาไม่ครบ หรือลูกค้ายกเลิกเมนูนั้นได้เลย

 

– ขโมยเงิน petty cash

ทุกร้านอาหารที่เจ้าของร้านไม่ได้อยู่เฝ้าร้านเองตลอดเวลาจะมีการทิ้งเงินสดย่อยหรือ Petty cash ไว้ให้พนักงานเผื่อใช้จ่ายในค่าใช้จ่ายจิปาถะที่ไม่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายปกติ ซึ่งในหลายๆครั้งค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักจะไม่มีบิลหรือมีบิลออกมาในรูปแบบของบิลเงินสดซึ่งพนักงานสามารถเมคขึ้นมาได้เอง ทำให้เป็นอีกช่องทางที่จะง่ายต่อการทุจริต

 

รู้ทันกลโกงพนักงาน

– แอบกินวัตถุดิบ

การแอบกินวัตถุดิบของร้านถือเป็นการทุจริตประเภทนึง ถึงแม้คุณอาจปิดหูปิดตาเพราะมองว่าคงเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่หากทำติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน และมีจำนวนหลายคนแล้วย่อมทำให้ร้านคุณสูญเสียรายได้เป็นจำนวนมากได้เลย

 

– ขโมยวัตถุดิบออกไปขาย

คุณคงนึกว่าคงจะมีแต่พนักงานหน้าร้านที่จับเงินเท่านั้นถึงมีโอกาสที่จะทุจริตได้ แต่ในความจริงแล้วพนักงานครัวก็สามารถทุจริตได้เช่นกัน และของที่มีมูลค่าสูงที่สุดในร้านอาหารของคุณก็คือตัววัตถุดิบที่เอง

เทคนิคง่ายๆ ในการขโมยวัตถุดิบในร้านคือ การขโมยวัตถุดิบใส่กระเป๋าหรืออาจจะใส่ถุงดำเพื่อนำไปทิ้ง แล้วค่อยไปแกะออกมาตอนออกนอกร้านภายหลังและนำไปขายต่อ คุณก็แทบไม่มีทางตรวจสอบได้เลย หากคุณไม่ทำการตรวจนับสต๊อกว่าสอดคล้องกับยอดขายของคุณหรือเปล่า

หลาย ๆ ร้านอาหารต่างประเทศจึงเปลี่ยนถุงขยะจากถุงดำเป็นถุงใสเพื่อที่จะได้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น

 

– ทุจริตเป็นขบวนการ

การทุจริตโดยมีการร่วมมือกันระหว่างพนักงานในร้านเป็นสิ่งที่ตรวจสอบได้ยากที่สุด ยิ่งถ้ามีการรู้เห็นระหว่างพนักงานหน้าบ้านและหลังบ้านแล้ว จะเป็นเรื่องยากที่ร้านอาหารจะสามารถตรวจพบเจอการทุจริต

ยิ่งร้านอย่างเราๆที่ไม่ได้มีฝ่ายตรวจสอบหรือเก็บข้อมูลการขายหรือตรวจเช็ควัตถุดิบอย่างต่อเนื่องแล้ว กว่าจะรู้ว่าร้านเราถูกทุจริตบางครั้งก็อาจจะสายเกินไปที่จะจับคนผิดหรือได้เงินคืน

 

 

รู้เห็นกับซัพพลายเออร์

 

รู้ทันกลโกงพนักงาน

 

– ขอค่าคอมมิสชั่นจากซัพพลายเออร์

ร้านยิ่งมีสาขาเยอะยิ่งขายดี ย่อมเป็นร้านที่ซัพฯทุกคนอยากจะเข้ามาขายของ บางครั้งแค่สามารถขายวัตถุดิบได้เพียงตัวเดียวอาจสร้างยอดได้เป็นแสน ๆ ต่อเดือน

เมื่อไหร่ที่ซัพฯ เป็นฝ่ายติดต่อมาหาร้านแล้วต้องผ่านเชฟหรือจัดซื้อ ก็จะมีโอกาสที่จะถูกขอค่าคอมมิชชั่นโดยอาจขอเป็นเงินก้อน ซึ่งจะเป็นการกินสั้นแต่กินเยอะ

 

– กินส่วนต่างของราคาโดยรู้เห็นกับซัพพลายเออร์

อีกวิธีการที่พบได้บ่อย ๆ คือการกินส่วนต่างจากราคาค่าวัตถุดิบทีละนิดๆ ซึ่งจะเป็นการกินน้อยแต่กินยาว และวิธีการนี้จะสามารถตรวจสอบได้ยากมากเพราะบางครั้งราคาอาจแตกต่างจากราคาตลาดเพียง 3-5% เท่านั้น ทำให้ยากต่อการสังเกต

เช่น สมมุติว่าปลาแซลมอนราคาปกติอยู่ที่กิโลกรัมละ 350 บาท เชฟคุณหรือจัดซื้ออาจตกลงกับทางซัพฯ โดยขอเพิ่มอีก 10 บาทต่อกิโลในทุกครั้งที่สั่งซื้อ กลายเป็นว่าร้านคุณต้องซื้อปลาในราคาโลละ 360 บาททันที และเชฟหรือจัดซื้อก็จะได้เงินเข้ากระเป๋าทุกเดือนไปเรื่อย ๆ

 

จริง ๆ แล้ววิธีหรือเทคนิคหลัก ๆ ในการทุจริตนั้นมีอยู่ไม่กี่รูปแบบ ซึ่งถ้าหากเจ้าของร้าน รู้ทันกลโกงพนักงาน เหล่านี้ก็จะช่วยสามารถวางแผนป้องกันการเกิดการทุจริตลงไปได้มากเลยทีเดียว

 

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ประการทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊

 

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin

 

📌 อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ