Butterbear กับการต่อยอดความสำเร็จจาก “น้องหมีเนย” และกลยุทธ์ Mascot Marketing ประตูบานใหม่ในการโกยเอนเกจเมนบนโลกออนไลน์
น่ารักจนทนไม่ไหวกับไวรัลในช่วงเวลาที่ผ่านมากับ มาสคอตน้องหมีเนย ที่สร้างปรากฏการณ์ห้างแตก จนกลายเป็นดาวดวงใหม่ ขวัญใจชาวพี่สาวชาวไทยและเจียเจียชาวจีน โกยเอนเกจเมนออนไลน์ได้จากทุกช่องทาง จนทำให้ร้านเป็นที่รู้จักลามไปจนถึงแฟนคลับชาวจีนต้องบินมาดูให้เห็นกับตา และล่าสุดททท. มีแพลนที่จะดึงน้องมาช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวไทยแล้ว!
ทำความรู้จักร้าน Butterbear
Butter Bear Cafe เป็นหนึ่งในร้านขนมและคาเฟ่จากเครือแบรนด์ Coffee beans by Dao ปัจจุบันมีสาขาอยู่ในศูนย์การค้าดิเอ็มสเฟียร์ ชั้น G
จุดกำเนิดของน้องหมีเนย
และดาวเด่นของร้านอย่างมาสคอตน้องหมีเนย เกิดขึ้นจากไอเดียของคุณบูม – ธนวรรณ วงศ์เจริญรัตน์ และคุณเบลล์ – ธนาภา ปางพุฒิพงศ์ ที่เบื้องหลังของความไวรัลนี้มีการคิดวางแผนอย่างจริงจัง ทั้งการวางสตอรี่และคาแรกเตอร์ให้กับตัวมาสคอต รวมไปถึงแผนทำคอนเทนต์ที่ทำให้ลูกค้าเกิดความผูกพันธ์ ซึ่งเราไม่แปลกใจเลยที่ทั้งหมดนี้จะส่งให้น้องหมีเนยและร้าน Butterbear แมสจนห้างแตก
“ยากกว่าการเป็นกระแส คือการทำให้ตัวเองอยู่ในกระแสไปได้ตลอด”
อย่างที่เรามักเห็นการบ่อย ๆ ร้านกระแสบางร้าน สุดท้ายก็เงียบหายไป เพราะไม่สามารถจัดการกับกระแสตรงนั้นได้ดีพอ ซึ่งน่าเสียดายมาก ๆ
แต่ Butter Bear เรียกว่ารับมืออย่างมีสติสุด ๆ ครับ กระแสมาเขาจับต่อยอดเลย ไม่ว่าจะเป็นการพาน้องเนยขยายสู่วงการเพลง อย่างผลงานล่าสุด ‘น่ารักมั้ยไม่รู้’ ที่ไม่ได้มีแค่เพลงอย่างเดียวนะคะ มี MV เป็นจริงเป็นจัง เพื่อกระจายความแมสให้เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นด้วย
และในมิติด้านธุรกิจ Butter Bear ต่อยอดน้องเนยจากการเป็นอินฟลูเอนเซอร์ สู่การสร้างไลน์สินค้าที่นอกเหนือจากอาหารเครื่องดื่ม อย่างการผลิต Merchandise ลิขสิทธิ์ต่าง ๆ เป็นของตัวเอง ซึ่งสามารถทำเงินจากฐานแฟนคลับ แฟนด้อม ไม่ว่าจะเป็น ที่คาดผม กิ๊บ กระเป๋าเป้ หูหมี Butter Bear และแน่นอนว่าทั้งหมดนี้ Sold out เป็นที่เรียบร้อย ทั้งในไทยและในจีน
โปรดักซ์ดีไม่พอ ต้องถูกที่ถูกเวลาด้วย
Butter Bear ถือว่ามาได้ถูกเวลากับช่วงที่กระแสเทรนด์อาร์ตทอยในไทยและทั่วโลกกำลังค่อย ๆ เติบโตขึ้น อย่างพอดิบพอดีเลย ซึ่งเป็นช่วงนี้นี่แหละที่ผู้บริโภคเริ่มมีความเข้าใจวิธีการสะสม เข้าใจคุณค่าของคาแรคเตอร์ เข้าใจเรื่องของการเก็บคอลเลคชั่น กระแสใหม่เหล่านี้ยิ่งหนุนให้ผู้บริโภคเปิดใจและพร้อมที่จะซื้อสินค้าจากคาแรคเตอร์นี้ยิ่งขึ้นไปอีกนั่นเอง
แม้เราจะอยู่ในวงการร้านอาหาร แต่เรื่องราวความเป็นไปนอกธุรกิจเราก็ยังต้องรู้ด้วยเช่นกันนะคะ เพราะนั่นคือโอกาสทางธุรกิจท้งนั้นเลย
บทบาทของมาสคอต ณ วันนี้จึงไม่ได้เป็นแค่สัญลักษณ์ของแบรนด์เฉย ๆ แล้ว การหยิบสิ่งที่มีอยู่แล้วมาต่อยอดโดยดูบริบทรอบตัวธุรกิจไปพร้อม ๆ กันจึงกลายเป็นประตูอีกบานที่จะช่วยคุณโกยเอนเกจเมนต์ เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นด้วยนั่นเอง
หวังว่าบทความที่นำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ
- เทคนิคทำธุรกิจให้คนหลงรัก แบบ Disneyland
- ‘First Place Coffee’ Coffee Truck ที่ยอดโตกว่า 550% ด้วยการปั้นคอมมูนิตี้
- EGG DROP แบรนด์แซนวิชไข่เกาหลี ที่ผลักดันตัวเองจนเป็น Soft Power
- HaiDiLao ทำยังไง? ถึงก้าวขึ้นเป็นร้านชาบูหม้อไฟระดับโลก
- คิดแบบ Sushiro ร้านซูชิสายพานที่ใช้ทุกอย่างในร้านเก็บข้อมูลลูกค้า ยันทำคอนเทนต์
- วิธีบริหารคน แบบฉบับ McDonald’s ทำอย่างไร ถึงสร้างมาตรฐานเหมือนกันทุกสาขาทั่วโลก
- วิธีที่ Starbucks รับมือลูกค้านักคอมเพลนแบบแบรนด์ระดับโลก
- ชนยักษ์ใหญ่ในแบบ Jollibee แบรนด์ไก่ทอดจากฟิลิปปินส์ ที่เอาจุดแข็งและจุดอ่อนของ McDonald’s มาสร้างร้านของตัวเอง
- Enoteca Maria ร้านอาหารในนิวยอร์ก กับไอเดีย Nonnas of the world รวบรวม ‘รสมือแม่’ จากทั่วทุกมุมโลก