เทคนิคลดกลิ่นคาวตับ

3 เทคนิคลดกลิ่นคาวตับ นุ่มเด้งไม่แข็งกระด้าง พร้อมวิธีเก็บให้อยู่ได้นานเป็นเดือน

ตับ คืออีกหนึ่งวัตถุดิบที่หลายๆร้านนำมาเป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร โดยเฉพาะร้านที่ขายอาหาร Steet Food ไม่ว่าจะเป็น โจ๊ก ต้มเลือดหมู หรือร้านก๋วยเตี๋ยวฯลฯ การเลือกซื้อตับที่สดใหม่เป็นหนึ่งในวิธีที่แทบทุกร้านเลือกใช้

เพราะจะทำให้ตับที่เรานำมาทำอาหารไม่มีกลิ่นเหม็นคาว นั่นหมายถึงเราจะต้องไปตลาดในทุกๆเช้าเพื่อให้ได้วัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ ซึ่งจริงๆแล้วเราสามารถซื้อตับสดเก็บสต๊อกไว้ได้นานมากกว่า 20 วัน ช่วยทำให้ประหยัดเวลาในการจัดซื้อและจัดเตรียมวัตถุดิบ

โดยมีวิธีการล้างตับ เพื่อให้ตับคงความสดและลดกลิ่นคาวมาแชร์กัน ด้วย 3 เทคนิคง่าย ๆ ดังนี้

 

#ล้างตับด้วยน้ำส้มสายชู

เทน้ำส้มสายชูลงไป พอประมาณให้เคล้าได้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด น้ำส้มสายชูมีความเป็นกรดซึ่งจะช่วยชะล้างคราบเมือกจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดกลิ่นคาวในตับได้ดีขึ้น

ล้างตับด้วยแป้งมันสำปะหลังหรือแป้งข้าวโพด ใส่แป้งมันลงไป ผสมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย พอละลายเป็นน้ำขลุกขลิก คลุกเคล้าให้เข้ากันพักไว้ประมาณ 10 นาที ล้างออกจนน้ำที่ล้างใส ไม่เป็นขุ่นแป้ง ตัวแป้งจะช่วยดูดซับกลิ่นคาวเลือดในตับ ซึ่งช่วยลดคาวในตับลงได้

 

#ล้างตับด้วยนมสด

เทนมให้ท่วม ตับที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด น้ำนมมีคุณสมบัติคล้ายสารซักล้าง (detergents) ที่ช่วยล้างเอาเลือดส่วนเกิน และลดกลิ่นโลหะ (metallic smell) จากคาวเลือด รวมไปถึงสารมีพิษบางส่วนที่ตกค้างในตับ ทำให้ลดกลิ่นคาวลงได้

เราสามารถเลือกใช้เทคนิคการล้างตับวิธีใดก็ได้ตามความเหมาะสม โดยหลังจากที่เราล้างตับเสร็จเรียบร้อยให้เก็บตับแยกเป็น Portion size ใส่ถุงซิปล็อค หรือถุงพลาสติก แผ่ตับให้แบนกระจายตัว ไล่อากาศออกให้มากที่สุด เพราะออกซิเจนจะเป็นตัวเร่งการทำงานของจุลินทรีย์และแบคทีเรีย ทำให้ตับเน่าเสียได้ง่าย

การจัดเก็บด้วยวิธีนี้ นอกจากจะทำให้วัตถุดิบคงความสดอยู่ได้นานแล้ว การแยกจัดเก็บเป็น Portion ยังช่วยควบคุมต้นทุน ป้องกันการหยิบใช้มากเกินไปหรือน้อยเกินไป ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบของร้าน ไม่บานปลาย สะดวกรวดเร็วในการหยิบใช้อีกด้วย

 

#วิธีละลายตับหลังจากแช่แข็ง

แช่ตับในน้ำที่อุณหภูมิห้อง พักไว้ประมาณ 20 นาที จนนิ่ม เพียงเท่านี้ก็สามารถนำตับมาใช้ทำอาหารได้เลยทันที

 

และทั้งหมดนี้ก็คือ เทคนิคลดกลิ่นคาวตับ สำหรับร้านอาหารค่ะ หวังว่าเคล็ดลับหลังครัวร้านอาหารจากเชฟหมีที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกคนนะคะ ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 🥰

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร

Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : @torpenguin
YouTube: Torpenguin

👉🏻 อ่านบทความ Cookวงใน อะไรต่อดี?