ร้านน้ำเต้าหู้ที่เราคุ้นตากัน ส่วนมากก็จะเป็นรถเข็นที่อยู่ตามข้างทางหรือในตลาดใช่มั้ยครับ? วันนี้เรามาเจอร้านน้ำเต้าหู้สวย ๆ ในบรรยากาศน่านั่ง แล้วมีโอกาสได้คุยกับคุณตูน – ศิริวัฒน์ ศิริบุญฤทธิ์ เจ้าของร้าน น้ำเต้าหู้ปูปลา ที่ทำให้เวลาเรานึกถึงน้ำเต้าหู้ ภาพจำในหัวของเราที่จะต้องดูจืดชืด ธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษเปลี่ยนไปทันที
น้ำเต้าหู้ปูปลา เปลี่ยนภาพร้านน้ำเต้าหู้ธรรมดา
ให้เป็นความสุข และความทรงจำ
ก่อนจะมาเป็นร้าน น้ำเต้าหู้ปูปลา
คุณตูนเล่าให้เราฟังว่าก่อนหน้าที่คุณตูนจะมาทำร้านน้ำเต้าหู้ปูปลานั้น คุณตูนทำบริษัทให้เช่าเครื่องจักรก่อสร้างมาก่อน และก่อนหน้านั้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วก็เคยทำร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแบบแฟรนไชส์มา พอมาถึงปัจจุบันคุณตูนและภรรยาเกิดไอเดียอยากทำร้านอาหารขึ้นมาอีกครั้ง จึงได้ลองศึกษาดูเทรนด์ที่ตอนนี้เขานิยมกัน นั่นก็คือ อาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งก็ตรงกับจุดประสงค์ที่คุณตูนเองก็อยากทำร้านอาหารที่มีประโยชน์กับลูกค้า ประกอบกับคุณพ่อชอบทานน้ำเต้าหู้มาก จึงเกิดเป็นไอเดียร้านน้ำเต้าหู้ขึ้นมา
หลังจากรู้แล้วว่าอยากทำร้านน้ำเต้าหู้ คุณตูนก็ออกไปสำรวจตลาด นั่นทำให้คุณตูนเจอความท้าทายใหญ่อย่างแรกเลยคืออันที่จริงแล้วร้านน้ำเต้าหู้มีอยู่มากมายหลายที่ จะไปหาตรงไหนก็เจอ ไปตลาดไหนก็มี ดังนั้นโจทย์ของคุณตูนคือจะทำอย่างไรให้ร้านของเราแตกต่างแล้วตอบโจทย์ลูกค้าที่อยากทานอาหารสุขภาพ
ซึ่งกว่าจะมาเปิดร้านนี้จริง ๆ ได้ เรียกได้ว่าทั้งสองก็ไปศึกษามาหลายอย่างแบบจริงจังมาก เรียนสูตรจากคนนั้นคนนี้ แล้วทดลองทำสูตรน้ำเต้าหู้ของตัวเอง โดยมีคุณพ่อช่วยชิมจนได้เป็นรสชาติแบบโบราณอย่างที่คุณพ่อทานมา ซึ่งคุณตูนได้ทดลองอยู่เกือบปีจึงเปิดร้านนี้ขึ้นมาได้
ที่มาของชื่อร้านสุดเก๋
ช่วยเล่าที่มาของชื่อร้าน “น้ำเต้าหู้ปูปลา” หน่อยครับ ผมว่ามันเก๋มากเลย
“ผมดันนึกถึง ‘น้ำเต้าปูปลา’ ขึ้นมาแค่นั้นเลย มันเล่นไปกับคำว่าน้ำเต้าหู้ได้” ซึ่งคำนี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของคอนเซปและรูปแบบการนำเสนอต่าง ๆ ของร้านในเวลาต่อมา
คุณตูนเลยนำไอเดียนี้ไปปรึกษากับภรรยาว่าใช้ชื่อนี้ดีมั้ย ซึ่งตอนแรกภรรยาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องน้ำเต้าปูปลา คุณตูนเลยอธิบายว่ามันคือชื่อของอุปกรณ์การเล่นเสี่ยงดวงชนิดหนึ่งในสมัยโบราณ ภรรยาคุณตูนคาใจไม่น้อยเลยนำชื่อนี้ไปปรึกษากับเพื่อนต่อ แล้วเพื่อนของภรรยาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าชื่อนี้คืออะไร
จนผ่านไป 1 สัปดาห์ ภรรยาของคุณตูนก็ยังคาใจไม่หายเลยไปปรึกษาเพื่อนคนเดิมอีกครั้งเพราะยังไม่รู้จะใช้ชื่ออะไรดี แล้วเพื่อนก็บอกว่า “อ้าว ก็น้ำเต้าหู้ปูปลาไง!” คุณตูนได้ยินแบบนั้นเลยคิดว่าชื่อนี้แหละ ชื่อน้ำเต้าหู้ปูปลา ชื่อร้านต้องเป็นแบบนี้ แปลกแต่คนจำได้ง่าย ได้ยินครั้งเดียวก็จำติดหัว เลยเลือกตั้งเป็นชื่อร้านในที่สุด
เมนูหลากหลาย DIY ได้ไม่เหมือนใคร
ในส่วนเมนูของร้านนั้นก็มีหลากหลายมาก มีทั้งแบบ DIY ให้เลือกน้ำเต้าหู้ ร้อน/เย็น นมร้อน/เย็น หรือจะเลือกเป็นแบบน้ำขิง หลังจากเลือกน้ำแล้วก็มาเลือกท๊อปปิ้งที่มีมากกว่า 30-40 ชนิดมาใส่ได้ ทำให้ลูกค้าเลือกมิกซ์ของที่ชอบได้ตามใจ หรือถ้าลูกค้าไม่รู้จะทานอะไรทางร้านก็จัดเซ็ตให้เรียบร้อย จากประสบการณ์ที่ได้ศึกษาและลองผิดลองถูกมา 1 ปีเลยทำให้รู้ว่าอะไรจับคู่กันแล้วจะอร่อย เรียกได้ว่าตอบโจทย์ครบทุกฟังก์ชันสำหรับคนรักน้ำเต้าหู้จริง ๆ
แม้น้ำเต้าหู้น่าจะเป็นเมนูที่คนวัยทำงานไปถึงคนวัยกลางคนน่าจะชื่นชอบมากกว่า แต่วัยรุ่นไม่น้อยที่แวะมานั่งแฮงค์เอ้าท์กัน บางคนก็ชวนพ่อแม่มาทาน เห็นพ่อแม่ชอบก็กลับมาซื้อซ้ำ ซื้อกลับไปฝากจนเป็นภาพชินตาของคุณตูนไปแล้ว
ตัวตนของ น้ำเต้าหู้ปูปลา กับการเรียนรู้และปรับตัว
แน่นอนว่าในการทำธุรกิจก็ต้องมีปัญหากันบ้าง ในการเปิดร้านน้ำเต้าหู้ปูปลานั้น คุณตูนบอกว่าเป็นเรื่อง ‘คน’ ที่เข้ามาทำงาน เนื่องจากร้านต้องทำวัตถุดิบสดใหม่อยู่เสมอ จึงต้องใช้คนเป็นจำนวนมากในการเตรียมวัตถุดิบ แล้วเริ่มงานตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนมาเปิดขายได้ตอน 6 โมงเย็น ประกอบกับระบบในร้านยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ เพราะเพึ่งเปิดมาได้ไม่กี่เดือน นี่เลยเป็นปัญหาที่เราต้องเรียนรู้และยังต้องค่อย ๆ ปรับกันต่อไป
‘คุณต้องมีตัวตน’ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุดในการทำร้านอาหารสำหรับคุณตูน ร้านต้องมีตัวตน มีความแตกต่างจากร้านอื่น ๆ เน้นในเรื่องความสะอาด คุณภาพของอาหาร ถ้าทำสามสิ่งนี้ให้ดียังไงร้านย่อมเติบโตได้แน่นอน
แผนในอนาคตคุณตูนยังคงอยากจะทำระบบให้แข็งแรงกว่าเดิมก่อน “เพราะผมมองว่าระบบในร้านเป็นรากฐานสำคัญของร้านอาหาร ก่อนจะทำอะไรผมว่าเราควรทำระบบให้ดีซะก่อน” ซึ่งในอนาคตถ้าวางระบบในร้านได้ดีกว่านี้คุณตูนก็จะเริ่มทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้ารู้จักมากขึ้นกว่าเดิม แล้วจะค่อย ๆ ขยับขยายสาขาในภายหลังจากนี้ต่อไป
“ศึกษาเรื่องร้านอาหารให้ดีก่อนจึงค่อยเริ่มทำ” คุณตูนฝากถึงคนที่อยากจะเปิดร้านอาหาร เพราะตอนนี้เอาจริง ๆ เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ข้าวของทุกอย่างแพงขึ้นหมด ทุกอย่างมันคือต้นทุน มีหลายคนที่ผมรู้จักก็เกิดปัญหานี้ขึ้น บทเรียนมีให้เห็นแล้ว ถ้าไม่ศึกษา ไม่โฟกัส ไม่ให้เวลากับมันจริง ๆ โอกาสที่ร้านจะไปต่อไม่ได้ก็มีมาก แต่ถ้าตั้งใจศึกษามาอย่างดี เข้าใจอย่างถ่องแท้ในสิ่งที่จะทำแล้วล่ะก็ เชื่อว่าทุกคนสามารถจะมีร้านอาหารของตัวเองได้เช่นกัน
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
กฎหมาย PDPA ร้านอาหาร ที่ผู้ประกอบการต้องรู้
เคล็ดลับ นับสต๊อกร้านอาหาร และจัดการวัตถุดิบ ทำเป็นเห็นกำไร
สร้างเมนูใหม่กำไรเข้าร้าน ด้วยไอเดีย จัดการ Food Waste สไตล์ตะวันตก
รวมสารพัดวิธีแก้ ปัญหาลูกค้าแน่นร้าน จัดการดีไม่มีสะดุด
เทคนิคเก็บ เซอร์วิสชาร์จร้านอาหาร ทำอย่างไรให้ลูกค้าพอใจที่ต้องจ่าย
คิดแบบ Sushiro ร้านซูชิสายพานที่ใช้ทุกอย่างในร้านเก็บข้อมูลลูกค้า ยันทำคอนเทนต์
Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกันบนเดลิเวอรี ที่ไม่ได้ใช้แค่ “โชค” เป็นส่วนประกอบ
เช็กเลย! คุณกำลัง ลดต้นทุนร้านอาหาร แบบผิด ๆ อยู่หรือเปล่า?
ถอดบทเรียน พี่เขียวข้าวเหนียวห่อ ทำคอนเทนต์ยังไงให้ปังบน TikTok