หนึ่งในปัญหาที่ร้านอาหารมักจะเจอบ่อยๆ นั่นก็คือ ปัญหาการจัดการวัตถุดิบ โดยเฉพาะของสด อย่างเช่น ปลา บทความนี้จึงเอา วิธีดับกลิ่นคาวปลา และหลักการเก็บปลาให้คงความสดใหม่ ได้นานมากกว่า 10 วัน และยังคงคุณภาพเหมือนพึ่งซื้อมาจากตลาดมาฝาก
วิธีดับกลิ่นคาวปลา และหลักการเก็บปลาให้คงความสดใหม่
ถ้าอาหารในร้านเราอร่อย แต่วัตถุดิบไม่สดใหม่ ส่งผลทำให้เกิดภาพจำที่ไม่ดีกับลูกค้า จนอาจทำให้เราเสียโอกาสในการขายและเสียลูกค้าประจำไปเลยก็เป็นได้
หลาย ๆ ร้านมีวัตถุดิบที่เป็นของสดหลายชนิด การที่เรารู้วิธีการจัดการวัตถุดิบให้คงความสดใหม่ได้นาน นอกจากจะประหยัดเวลาในการไปจ่ายตลาดเพื่อเลือกซื้อแล้ว ยังช่วยลด waste ที่เกิดขึ้นได้จากการเน่าเสียของวัตถุดิบจำพวกเนื้อสัตว์ต่าง ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะเนื้อปลา
ปลาเป็นวัตถุดิบที่หลายร้านมีไว้เพื่อเป็น Option เสริมให้กับลูกค้า อาจไม่ใช่เมนูที่ขายดีจนมีลูกค้าสั่งบ่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบที่เน่าเสียได้ง่าย ยิ่งถ้าเราจัดการวัตถุดิบได้ไม่ดีพอ เนื้อปลาก็จะลดคุณภาพความสดใหม่ลงไปเรื่อย ๆ
แล้วเราจะมีวิธีอย่างไรที่ช่วยยืดอายุความสดใหม่ของเนื้อปลากันล่ะ วันนี้เราจะมีเทคนิคง่าย ๆ มาแชร์กัน ซึ่ง อันดับแรกต้องเริ่มจากการเลือกซื้อก่อนเลย เพราะถ้าเราเลือกซื้อปลาที่สดใหม่มาตั้งแต่แรก ระยะเวลาในการจัดเก็บก็จะยาวยิ่งขึ้นเช่นกัน ซึ่งมีวิธีการสังเกตง่าย ๆ ดังนี้
วิธีเลือกซื้อปลาสด
1. เนื้อปลาแน่น ไม่เละ กดดูเนื้อปลาต้องเด้งคืนกลับมาอย่างรวดเร็ว
2. ตาปลากลมใส ไม่ขุ่นหรือหลุดออก
3. เหงือกปลามีสีแดงสด ไม่เขียวคล้ำ
4. เกล็ดปลามันเป็นเงา เกล็ดเรียบแนบกับตัวปลา
5. กลิ่นของปลาต้องดป็นกลิ่นคาวธรรมชาติ ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
6. บริเวณใต้ท้องปลาไม่แตกหรือบวม
หลังจากที่เราได้ปลาที่สดใหม่ เราต้องรู้วิธีล้างทำความสะอาดเพื่อลดกลิ่นคาวในปลาออกให้ได้มากที่สุด เพราะกลิ่นคาวในปลาเกิดจากกการสลายของสารในกล้ามเนื้อปลาเรียกว่า “ไทรเมทิลามีนออกไซด์ (Trimethylamineoxide)” เมื่อปลาตายเนื้อปลาจะถูกย่อยด้วยจุลินทรีย์ทำให้เกิดสาร “ไทรเมทิลามีน (Trimethylamine : TMA)” การล้างกลิ่นคาวออกจึงเป็นการกำจัดจุลินทรีย์ชนิดนี้ออกไปด้วย จึงทำให้เก็บเนื้อปลาได้นานยิ่งขึ้น
วิธีดับกลิ่นคาวปลา
1. ขอดเกล็ด ควักไส้ปลา ล้างทำความสะอาด ทาด้านในและด้านนอกตัวปลาด้วยเกลือให้ทั่ว ล้างออกให้สะอาดอีกครั้ง
2. ล้างด้วยน้ำนม นำปลาที่ขอดเกล็ดทำตวามสะอาดเรียบร้อยแล้ว มาแช่ในยน้ำนมประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง น้ำนมจะช่วยชะล้างจุลินทรีย์ที่ติดมากับเนื้อปลาให้หลุดออก
3. ล้างปลาด้วยน้ำผสมน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู อัตราส่วนน้ำ 1 ลิตร : น้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ ล้างด้านในด้านนอกจนหมดเมือกปลา แล้วล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง
4. ใส่เครื่องเทศ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระชาย โหระพา กะเพรา ฯลฯ ลงในเมนูอาหาร จะช่วยเพิ่มความหอมและดับกลิ่นคาวปลาได้เป็นอย่างดี
วิธีเก็บปลาให้สดใหม่ได้นาน 10 -15 วัน
หลังจากได้ปลามาจากตลาดสดหรือรับมาจาก Supplier แล้วควรจัดการวัตถุดิบทันที เพื่อให้คงความสดได้ยาวนานที่สุด ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
– ขอดเกล็ด ควักไส้ปลาออก ล้างทำความสะอาด พักให้พอหมาด
– หั่นปลาเป็นชิ้นหรือแล่ชิ้นปลาให้มีขนาดตรงตามสเปคของแต่ละเมนูที่จะนำไปใช้
– เคล้าปลาด้วยเกลือให้ทั่ว ส่วนปลาที่ใช้ทั้งตัวในเมนูปลาเผา ปลาทอด เคล้าด้วยเกลือให้ทั่วทั้งด้านในด้านนอกตัวปลา
– ล้างเกลือออกด้วยน้ำสะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ
– ซับปลาด้วยกระดาษอเนกประสงค์ให้แห้งที่สุดเท่าที่จะทำได้
– ห่อปลาด้วยกระดาษอเนกประสงค์แล้วใช้พลาสติกแรปห่อให้แน่น หรือให้นำปลาใส่ถุงและเข้าเครื่อง Vacuum หรือ เครื่องซีลแบบสุญญากาศ ป้องกันไม่ให้เนื้อปลาสัมผัสอากาศให้ได้มากที่สุด
– ใส่ปลาในภาชนะที่มีฝาปิดสนิทและแช่ในช่องแช่แข็ง
ถ้าเราจัดการเนื้อปลาได้อย่างถูกต้องก็จะช่วยให้คงความสดได้นานยิ่งขึ้น ทำให้มั่นใจได้ว่าเมนูอาหารที่มีส่วนประกอบหลักเป็นเนื้อปลา จะคงความสดอร่อยเหมือนซื้อมาใหม่ ๆ จากตลาด
การจัดเก็บปลาด้วยวิธีนี้ นอกจากจะทำให้วัตถุดิบคงความสดอยู่ได้นานแล้ว การแยกจัดเก็บเป็น Portion ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบของร้าน ไม่บานปลายจากการหยิบมากหรือน้อยเกินไป และไม่ทำให้เกิด waste จากการเน่าเสียของเนื้อปลาอีกด้วย
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีทำหอมเจียว กระเทียมเจียว ให้สีสวย กรอบนาน เก็บได้ยาวเป็นเดือน
สูตรซอสผัดอเนกประสงค์ ใช้ได้ครอบจักรวาล พร้อมวิธีการคำนวณต้นทุน
เคล็ดลับ นับสต๊อกร้านอาหาร และจัดการวัตถุดิบ ทำเป็นเห็นกำไร
วิธีง่ายๆ ใน การทำงบกำไรขาดทุน (P&L) สำหรับร้านอาหาร
ไสใส บอกเล่าเรื่องราววัตถุดิบท้องถิ่นในไทย ให้เป็นที่รู้จักผ่านน้ำแข็งไส