ลูกค้ามีกี่ประเภท

ลูกค้ามีกี่ประเภท ทำความรู้จักลูกค้า 5 กลุ่ม ที่ทุกธุรกิจจะต้องเจอ รวมถึงร้านอาหารด้วย

 

เมื่อไหร่ก็ตามที่ธุรกิจของคุณมีลูกค้าตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป นั่นก็ถึงเวลาแล้วที่ต้องเริ่มเรียนรู้ที่จะแบ่งกลุ่มประเภทลูกค้า และวางแนวทางการบริหารลูกค้าในแต่ละกลุ่มให้ต่างกันไป

 

Customer Grouping หรือ Customer Segmentation เป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ สำหรับทุกธุรกิจ แม้ว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มจะทำหน้าที่ต่างกันให้กับธุรกิจของคุณ และยังมีความต้องการแตกต่างกัน

 

แต่พวกเขามีสิ่งที่เหมือนกันก็คือต้องการได้รับการดูแลที่ดีที่สุดจากเรา ในขณะเดียวกัน การวางแผนการดูแลลูกค้าแต่ละประเภทให้เหมาะสมก็จะช่วยลดต้นทุนทางการตลาดให้เราด้วย

ลูกค้ามีกี่ประเภท กันนะ ? วันนี้อยากให้ลองมาวิเคราะห์ลูกค้าทั้งหมดที่คุณมี แล้วพยายามแยกประเภทเขาออกจากกัน และวางแผนจัดการกับพวกเขาด้วยแนวทางที่เหมาะสม ตามกลุ่มดังนี้เลย

 

 

กลุ่มที่ 1 ลูกค้าเก่า : ลูกค้าใหม่

ลูกค้ามีกี่ประเภท

ลูกค้าเก่าคือคนสำคัญที่สุดของธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นลูกค้าของคุณในช่วง 1-2 ปีแรกของธุรกิจ เพราะเค้าคือคนที่ศรัทธาในธุรกิจของเรา ลูกค้ากลุ่มนี้เป็นเหมือนรากฐานของธุรกิจที่ทำให้คุณมีวันนี้สิ่งที่เขาควรจะได้รับจากคุณคือ การแวะหรือโทรไปทักทายด้วยตัวคุณเอง รู้รายการโปรโมชั่นก่อนใคร สิทธิ์ในการสั่งจองสินค้าเป็นกรณีพิเศษ หรือแม้กระทั่งอาจเป็นเรื่องของเครดิตการชำระเงินที่ยาวกว่าคนอื่น

จริงอยู่ที่การหาลูกค้าใหม่ก็มีความสำคัญและเป็นสิ่งที่คุณต้องทำเช่นกัน แต่อย่าเผลอไปเสนอสิทธิประโยชน์ “ที่ดีกว่า” สิ่งที่คุณกำลังให้ลูกค้าเก่า หรือคุณอาจจะให้ในสิ่งเดียวกันได้ แต่ต้องมาทีหลังลูกค้าเก่าเสมอ เท่าเปรียบเหมือนรากฐานของบริษัท ปล่อยให้หลุดไม่ได้ ที่เหลือจะพังทั้งหมด

 

 

กลุ่มที่ 2 ซื้อมาก : ซื้อน้อย

ลูกค้ามีกี่ประเภท

 

ลูกค้าซื้อมากเป็นเหมือนผู้ช่วยสร้างระบบเงินหมุนเวียนของธุรกิจ มีความสำคัญเทียบเท่ากลุ่มแรก แต่อาจจะไม่ได้เป็นลูกค้าเราตั้งแต่วันแรกๆ การดูแลจึงต้องต่างกันไปด้วยตามสมควร

ลูกค้าซื้อเยอะอาจต้องดูแลในรูปแบบของการสะสมยอดซื้อ ส่วนลดของแถม เป็นลักษณะของลูกค้าเชิงธุรกิจมากกว่าแบบแรก

 

 

กลุ่มที่ 3 ซื้อบ่อย : นานๆ ครั้ง

 

ลูกค้ามีกี่ประเภท

 

แน่นอนที่สุด คุณต้องการลูกค้าที่ซื้อบ่อย เพราะนอกจากจะเพิ่มยอดขายแล้ว ลูกค้าที่มาซื้อบ่อยๆ ยังช่วยทำให้ร้านดูคึกคัก มีชีวิตชีวามากขึ้นด้วย การซื้อของบ่อยๆ เป็นพฤติกรรมอย่างหนึ่ง คือมีความสุขที่ได้ซื้อไม่ได้ซื้อเพราะความจำเป็น

ลูกค้ากลุ่มนี้จะชอบเซอร์ไพรส์เล็กๆ ต้องให้อะไรติดไม้ติดมือทุกครั้งที่เค้าแวะมา แล้วเค้าจะกลับมาหาคุณเรื่อยๆ ลูกค้าซื้อบ่อยนั้นเป็นแกนหลักของการทำธุรกิจ เพราะธุรกิจต้องการ Transaction เพื่อให้ระบบงานต่างๆ เดินไปได้ตามปกติและสม่ำเสมอ

สิ่งที่จะมัดให้ลูกค้ากลุ่มนี้มาซื้อได้บ่อยๆ คือ ให้หาของชิ้นเล็กๆ ราคาไม่แพงมาวางขาย จะช่วยให้ลูกค้ากลุ่มนี้ซื้อได้แทบทุกรอบที่มา

 

 

กลุ่มที่ 4 ซื้อปกติ : ซื้อเพราะโปรโมชั่น

ลูกค้ามีกี่ประเภท

 

ลูกค้าที่มาซื้อของเราเพราะโปรโมชั่นคือลูกค้าที่สนใจในข้อเสนอของโปรโมชั่น พวกเค้าเป็น Deal Hunter ชั้นยอดและไม่มี Brand Loyalty อยู่ในความรู้สึก อย่าได้คิดทำโปรโมชั่นกับคนกลุ่มนี้เพื่อเอามาสร้างเป็นฐานลูกค้า เพราะคุณจะเสียเงินเปล่า สังเกตเพื่อนๆ ที่ชอบซื้อ Groupon ทั้งหลายดู ว่ามีกี่ % ที่ย้อนกลับไปกินร้านเดิมอีก

ควรเอางบส่วนลดและโปรโมชั่นตรงนั้นไปดูแลลูกค้าที่ซื้อราคาปกติจะได้ผลในระยะยาวมากกว่า ลูกค้าโปรโมชั่นเป็นกลุ่มที่ไม่มี Loyalty เราคาดหวังอะไรไม่ได้มาก เพราะเขาพร้อมจะเปลี่ยนใจได้ทันที่ เมื่อเจอข้อเสนอที่ดีกว่า

 

 

กลุ่มที่ 5 นำเทรนด์ : ตามน้ำ

ลูกค้ามีกี่ประเภท

 

ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูงคือธุรกิจที่สามารถจับลูกค้ากลุ่มนำเทรนด์ได้ก่อนและมากกว่า เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ชอบและกล้าลองอะไรใหม่ ๆ ซึ่งเขาจะรู้ดีว่าการลองอะไรใหม่ๆ ก่อนใครนั้น เขาาต้องจ่ายแพงกว่าเสมอ แต่กลุ่มนี้ก็ยินดีจ่ายเพราะเขาต้องการหน้าตาและการยอมรับในสังคมว่า เขาเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้ลองสินค้านี้

สิ่งที่คุณควรจะมอบให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ คือ แจ้งเค้าก่อนใครว่ามีสินค้าใหม่ออก (อาจจะแจ้งพร้อมกับลูกค้าเก่า) ให้การยกย่องเขา ถ่ายรูปแล้วอัปขึ้นเฟซบุ๊กของทางร้าน ถ่ายรูปติดไว้ใน Guest Board ว่า Trendsetter ตัวจริงมาลองแล้ว แค่นี้เขาก็ปลื้มสุด ๆ แล้ว

ลูกค้านำเทรนด์คือผู้ซื้อของเพราะจิตวิทยามากกว่าประโยชน์ และเป็นสีสันของธุรกิจที่คุณขาดไม่ได้ พวกเขาจะสร้างความตื่นตาตื่นใจ เรียกแขกแจกข่าวแก่ผู้พบเห็นว่า ธุรกิจของเรามีอะไรดี การมีลูกค้ากลุ่มนี้เยอะ ๆ เหมือนกับมีบริษัท PR มืออาชีพดูแลธุรกิจให้คุณ

 

จากทั้ง 5 กลุ่มที่ว่ามา หวังว่าคงช่วยให้เห็นภาพและทิศทางที่ชัดเจนว่า คุณควรจะจัดการกับลูกค้าของคุณแบบไหนต่อไปนะคะ

ต้องยอมรับว่าธุรกิจของคุณต้องมีและเจอลูกค้าครบทุกประเภทที่ว่ามา และไม่สามารถปฏิเสธการขายกับลูกค้าประเภทใดประเภทหนึ่งได้ คุณจึงควรวางกลยุทธ์และแผนการจัดการระยะยาวกับลูกค้าแต่ละประเภทให้ชัดเจน และถ่ายทอดเป็นนโยบายการทำงานให้กับทีมต่อไป อย่าปล่อยให้ลูกน้องไปคิดเองหรือแก้ปัญหารายวันในเรื่องนี้

 

การดูแลลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญมากที่สุดที่เจ้าของธุรกิจควรลงรายละเอียด และร่วมทำงานจริงกับทีมเพราะถ้าไม่จัดการวางระบบการบริหารลูกค้าให้ดี เราจะเสียโอกาสในการขาย แถมเสี่ยงต่อการเสียลูกค้าให้คู่แข่งได้ง่ายๆ ด้วย

หวังว่าบทความนำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin

 

📌 อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ