บทเรียนธุรกิจ เข้าใจธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น ผ่านมุมมองของต้นไม้
” ต้นไม้ไม่เคยหยุดโต เข้าใจธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น ผ่านมุมมองของต้นไม้ ”
บางทีธุรกิจก็เหมือนต้นไม้นะ อยากให้คนทำธุรกิจลองศึกษากลยุทธ์ของต้นไม้ดูดีๆ เพราะถ้าคุณเข้าใจธรรมชาติของต้นไม้ คุณจะเข้าใจธรรมชาติของการทำธุรกิจมากขึ้น
ถ้าบ้านใครปลูกต้นไม้ หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่าต้นไม้มีความพยายามอย่างมากในการเหยียดกิ่งก้านสาขาออกไปเพื่อให้ใบนั้นได้เจอแสงแดด
การแตกกิ่งก้านของต้นไม้นั้นมีระบบมาก คือยอมให้กิ่งใบช่วงโคนต้นที่ไม่โดนแดดร่วงหล่นไป เพื่อไปงอกใหม่ในช่วงปลายที่มีโอกาสทำให้ทั้งต้นเติบโต กำแพงหรือสิ่งรอบข้างจะบดบังแสงมากแค่ไหน ก็จะแทงกิ่งลอดออกไปเจอแดดจนได้ทุกที
ต้นไม้นั้นเลือกว่าจะโตไปเฉพาะทางที่มีแสงส่องถึง ถ้าเป็นการขยายธุรกิจ ทีมงาน ทรัพยากรต้องทุ่มไปกับส่งที่มีโอกาส แล้วต้องตะกายให้สุดกำลังไปทางนั้น ไม่ใช่เอาไปใช้กับที่ไม่มีอนาคต
หลายบริษัทชอบระดมทั้งทุนและเวลาไปแก้ปัญหาที่ไม่เห็นอนาคต และปล่อยให้โอกาสใหม่ ๆ หลุดมือไป กว่าจะรู้ตัว โอกาสนั้นก็มีคนตัดหน้าไปแล้ว
ต้นไม้จะไม่สนใจและรู้ดีว่าด้านนั้นไม่มีโอกาสเติบโตแตกกิ่งก้านใบ มันจึงยอมสลัดใบส่วนที่โดนบังแดดทิ้ง ปล่อยให้เหลือแต่กิ่งแล้วไปเร่งขยายกิ่งใบในด้านอื่น
พอเอาเข้าจริง ก็ไม่มีใครสามารถบอกได้นะครับว่า กิ่งไม้มันยาวขึ้นมาวันละมิลลิเมตร และก็คงไม่มีใครไปนั่งนับว่า วันวันหนึ่งมีใบร่วงจากต้นกี่ใบ แต่พอเผลอแป๊บเดียว สิ่งที่เราเห็นคือต้นไม้จะใบร่วงเกลี้ยงไปด้านหนึ่ง พร้อมกับกิ่งและใบใหม่ที่กำลังรับแสงแดดอย่างสดชื่น
นั่นเป็นเพราะกระบวนการแตกกิ่งสู่แสงแดดเพื่อการเติบโตนั้นไม่ได้ทำเพียงชั่วข้ามคืน แต่ทำผ่านเวลาแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และยาวนาน
การเติบโตของธุรกิจก็เช่นกัน เราไม่สามารถเสกความสำเร็จมาได้ง่ายๆ เหมือนดีดนิ้ว แต่ทุกอย่างล้วนมีขั้นตอนและอาศัยพลังงานที่ใส่ลงไปอย่างมากมายทั้งนั้น
ธุรกิจที่อยู่ท่ามกลางคู่แข่งย่อมเหมือนต้นไม้ที่โดนบังแสง ยากที่จะเติบโต เมื่อโอกาสไม่มี มองไม่เห็นทางออก อย่าเสียเวลาตรงจุดนั้น สู้รวมพลัง แล้วโฟกัสการแตกกิ่งใหม่ไปหาด้านที่ใกล้แดดที่สุด ย่อมได้ผลกว่า บ่อยครั้งที่เราจะเห็นว่า กิ่งใหม่ที่โดนแดดเพียงกิ่งเดียว สามารถช่วยให้ทั้งต้นรอดได้ และในที่สุดกิ่งนั้นจะกลายเป็นก้านหลักให้ทั้งต้นต่อไป
และในขณะที่กิ่งก้านใบพยายามสุดเหยียดเพื่อแสงแดด รากที่อยู่ในดินก็พยายามขยายตัวไม่น้อยเช่นกัน ถ้าคุณลองทุบกระถางดู คุณจะเห็นว่ามันมีรากไปรวมกันแน่นอยู่บริเวณกันกระถางเพื่อรอโอกาสขยายตัว แต่ติดที่อยู่ในกระถางจึงไปไหนต่อไม่ได้
และเมื่อคุณเปลี่ยนกระถางให้ใหม่หรือย้ายลงไปปลูกในดิน คราวนี้ต้นไม้จะเติบโตได้เต็มที่ไร้ข้อจำกัด เพราะไม่มีอุปสรรคอะไรมาขวางแล้วที่ผ่านมามันไปไหนไม่ได้เพราะกระถางขวางอยู่ แต่เมื่อมันสบช่องเห็นรูตรงกันกระถาง ต้นไม้ไม่เคยลังเลที่จะขยายรากลงไปเพื่อหาดินด้านนอกที่อุดมสมบูรณ์กว่า
ต้นไม้กล้าออกนอกกรอบ ก้าวออกไปหาโอกาสที่ดีกว่า ไม่มัวรอความหวังจะได้รับการเปลี่ยนกระถาง ที่ไหนมีโอกาสก็กล้าเสี่ยง กล้าก้าวออกจาก comfort zone ที่เคยอยู่มาตลอด คนทำธุรกิจ ถ้าคิดจะใหญ่ต้องกล้าให้เหมือนต้นไม้พวกนี้ อย่าสร้างกรอบมาจำกัดโอกาสในการขยายตัว ให้ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างสม่ำเสมอไปกับโอกาสใหม่ที่เรามองเห็นอย่างชัดเจน
ก้าวเท้าออกจากความสบายและเคยชิน ออกหาสิ่งใหม่ๆ เพื่ออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน เหมือนกับที่ต้นไม้ทุกต้นกำลังทำให้เราดูเป็นตัวอย่างนะคะ
หวังว่า บทเรียนธุรกิจ ที่นำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประการทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊
Source : หนังสือวิชาธุรกิจ ที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 2
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ
- ‘บอส’ แบบนี้ไปพักก่อน… 5 นิสัยที่คนเป็นเจ้าของ อาจทำโดยไม่รู้ตัว รีบแก้ก่อนจะไม่เหลือใคร
- ‘อ่านคน’ ทักษะผู้ประกอบการสำคัญ ถอดวิชาผู้นำจากยุคสามก๊ก ตลอด 96 ปี
- ฝึกตัดสินใจ แบบผู้ประกอบการ เลือกไม่ถูก ไม่รู้จะเอายังไง ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้นด้วยกฎ 10/10/10
- ตัดสินใจให้เฉียบ แบบผู้ก่อตั้งและอดีต CEO Amazon ‘Jeff Bezos’
- บทเรียน SME ที่ได้จากการบริหาร ‘ศรีจันทร์’ มากว่า 10 ปี ของคุณรวิศ หาญอุตสาหะ
- อยากได้ผลลัพธ์ใหม่ ๆ ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง ถ้ายังไม่รู้จะเริ่มยังไง ให้เริ่มเปลี่ยนจาก 5 สิ่งนี้
- Power of Detail ความสำเร็จ วัดกันที่รายละเอียด ถอดไอเดียจาก สุกี้ตี๋น้อย และ Karun