น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลตะโหนด

น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลตะโหนด แยกยังไง เลือกใช้ให้ถูก เพิ่ม Value ให้กับอาหาร

 

น้ำตาลขึ้นราคา อีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องเจอะเจออยู่บ่อยๆนั่นคือต้นทุนของวัตถุดิบที่ขยับขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการกักตุนสินค้าหาซื้อยาก ขาดตลาด อีกทั้งต้นทุนของอาหารมีการปรับตัวสูงขึ้นตามลำดับ

อีกหนึ่งวิธีที่เราจะแก้ปัญหาเมื่อสินค้าโดยเฉพาะน้ำตาลที่ถูกกักตุนจนขาดตลาด ทำให้ไม่สามารถหาซื้อมาประกอบอาหารได้ ก็คือ เลือกใช้วัตถุดิบเพื่อมาทดแทนส่วนผสมที่เราหาซื้อไม่ได้นั่นเอง

ซึ่งถ้าพูดถึงสารให้ความหวานที่นอกเหนือจากน้ำตาลทราย ก็คงจะหนีไม่พ้น น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลปึก น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลโตนด ซึ่งน้ำตาลเหล่านี้ให้ความหวานที่ใกล้เคียงกัน แต่จะมีกลิ่นและลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกัน แต่สามารถนำมาใช้ทำอาหารทดแทนกันได้

ถ้าพูดถึงน้ำตาลทั้ง 4 ชนิดนี้ อาจจะมีคนสงสัยว่าคือน้ำตาลชนิดเดียวกันไหม และเราสามารถใช้แทนกันได้หรือเปล่า แล้วน้ำตาลแต่ละชนิดมีวิธีผลิตเหมือนหรือต่างกัน สามารถใช้ทดแทนในเมนูอาหารของร้านเราได้หรือไม่ วันนี้เราเอาลักษณะเฉพาะของน้ำตาลแต่ละประเภทมาแชร์ให้ทุกคนสามารถนำไปเลือกใช้ให้เหมาะกับอาหารของร้านอาหารแต่ละร้านกันค่ะ

 

#น้ำตาลโตนด

น้ำตาลโตนด เป็นน้ำตาลที่ได้มาจากน้ำหวานของช่อดอกต้นตาล สีของน้ำตาลโตนดแท้จะออกไปทางเหลืองออกน้ำตาล หรือ น้ำตาลแดง เนื้อสัมผัสละเอียด เมื่อนำมาเคี่ยว แล้วหยอดลงในแม่พิมพ์ จะจับตัวเป็นก้อน แต่ถ้าโดนความร้อน ก็จะคืนตัวกลับไปเป็นของเหลว รสชาติจะออกรสหวานชัดเจน หอมนุ่มละมุนกว่าน้ำตาลทราย จึงนิยมนำมาทำอาหารทั้งคาวและหวาน เช่น พะโล้ บัวลอย ขนมตาล กล้วยบวชชี ลอดช่อง เป็นต้น

 

#น้ำตาลมะพร้าว

น้ำตาลมะพร้าว เป็นน้ำตาลที่ได้จากน้ำตาลสด ที่รองมาจากงวงมะพร้าว หรือ ช่อดอกของต้นมะพร้าว แล้วนำมาเคี่ยวจนเดือด ลักษณะของน้ำตาลมะพร้าวจะมี 2 แบบ คือ น้ำตาลมะพร้าวแท้ 100 % มีสีน้ำตาลเข้ม ถ้าโดนความร้อนจะคืนตัวกลับไปเป็นของเหลวได้ง่าย กับ น้ำตาลมะพร้าวที่ผสมกับน้ำตาลทราย มีสีน้ำตาลอ่อน เมื่อโดนความร้อนจะคืนตัวกลับไปเป็นของเหลวได้ช้า สำหรับรสชาตินั้น จะมีความหวานน้อยกว่าน้ำตาลทราย แต่มีความหอมมันที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่ นิยมนำมาใช้ในการปรุงอาหารและทำขนมไทย

 

ส่วน น้ำตาลปึก และ น้ำตาลปี๊บ ทำได้ทั้งจากช่อดอกต้นตาลและช่อของดอกของต้นมะพร้าว ขึ้นอยู่กับวิธีขึ้นรูปหลังจากเคี่ยว ถ้าขึ้นรูปเป็นก้อนกลมแข็งก็จะเรียกน้ำตาลปึก ส่วนบรรจุลงในปี๊ปก็จะเรียกน้ำตาลชนืิดนี้ว่าน้ำตาลปี๊บนั่นเอง

ซึ่งถ้าเรารู้จักวัตถุดิบที่นำมาใช้ รู้ความต้องการของรสชาติอาหารที่เราอยากเสิร์ฟให้กับลูกค้า เราก็จะสามารถเลือกใช้น้ำตาลได้เหมาะสมและเสริมให้รสชาติอาหารของเราอร่อยและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนใครนั่นเอง

 

หวังว่าเรื่องราวของ น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลตะโหนด ที่เชฟหมีนำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกคนนะคะ ฝากติดตาม Cook วงใน ทั้งใน Facebook Youtube และ TikTok ด้วยนะคะ ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 🥰

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร

Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : @torpenguin
YouTube: Torpenguin

👉🏻 อ่านบทความ Cookวงใน อะไรต่อดี?