ทำยังไงให้ลูกค้าเจอร้านเรา ก่อนคู่แข่งบน Google
ก่อนที่ลูกค้าจะมาเจอร้านเรา เค้าก็ไปเสิร์ชหา Google มาก่อนแล้วเช่นกัน ซึ่งคถามต่อมาก็คือแล้วเราจะ ทำยังไงให้ลูกค้าเจอร้านเรา บนนั้น การที่จะทำให้ลูกค้าเจอกับร้านของเราก่อนใคร สิ่งที่มีความสำคัญมาก คือ การทำ SEO
เอาง่าย ๆ SEO หรือ Search Engine Optimization ก็เหมือนกับการปักหมุดร้านคุณให้อยู่ริมถนนใหญ่บนโลกออนไลน์ ให้คนค้นหาใน Google แล้วเจอร้านคุณง่ายขึ้น
Key Takeaway สำคัญของเรื่องนี้ก็คือ
- วิเคราะห์ Customer Journey Map
- ออกแบบการตลาดที่ตอบรับ Customer Journey
- สร้าง Profile ในทุก ๆ Platform ที่จำเป็น
- เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นมากที่สุดด้วยการทำ SEO
Customer Journey Map
คือ เส้นทางการเดินทางการใช้บริการของลูกค้า โดยเราต้องเข้าใจลูกค้าไปทีละสเต็ป โดยเริ่มหาข้อมูลว่าลูกค้าในอุดมคติของเราคือใคร ประวัติ เป้าหมาย แรงบันดาลใจคืออะไร และนำไปสู่คำตอบว่าอะไรที่ร้านจะตอบโจทย์ลูกค้าคนนี้ได้ ในจุดไหนบ้าง
ต้องรู้ให้ได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร
Customer Action คือการกระทำของลูกค้าที่เชื่อมโยงกับ Touchpoint ที่เราจะได้เจอกับลูกค้า ถ้าเราหา Painpoint เจอว่าจุดไหนที่ทำให้ลูกค้าได้รับ Customer Experience ยังไง จะนำไปสู่โอกาสที่เราจะแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ และทำให้ลูกค้ามาเริ่มใช้บริการ รวมไปถึงการกลับมาใช้ซ้ำในอนาคต
สิ่งที่เราต้องทำคือ รีเสิร์ช ค้นหาข้อมูลว่าลูกค้าของเรากำลังต้องการอะไร ผ่านความคิดเห็นจริงในโซเชียลมีเดีย แล้วนำไปวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการในตลาด เพื่อนำไปทำการตลาดที่ตรงจุด และโปรโมท ‘คีย์เวิร์ด’ ที่ตรงใจ ที่ลูกค้าจะนำไปค้นหา เพื่อให้ลูกค้าหาเราให้เจอ
ตัวอย่าง Keyword ที่คนมักนำไปเสิร์ชใน Facebook, Google คือ ร้านดัง, อร่อย, ของกิน หรือ เมนู ประเภทอาหาร และตามด้วยโลเคชั่น (เราสามารถใช้ TikTok ค้นหาคำที่ใกล้เคียง เพื่อเข้าไปเช็ก Trends ได้จาก Keyword ที่แอปแนะนำให้ได้)
ลูกค้าเขาจะเจอเราจาก Channel ไหน
Google เป็นช่องทางหลักที่ลูกค้ามักไปเสิร์ชหาข้อมูลร้านอาหารและรีวิว ช่องทางที่มักขึ้นมาคือเว็บรีวิวดัง ๆ ที่จะขึ้น Top หน้าแรก โดยเราสามารถเข้าไปติดต่อเพื่ออยู่ในหน้าแรกบนอันดับที่ดีได้
อีกช่องทางที่น่าสนใจคือ Youtube เราสามารถทำคลิปหรือใช้อินฟลูเอนเซอร์ด้วยคีย์เวิร์ดที่มาจากความต้องการของ User เพื่อเพิ่มโอกาสการติดหน้าแรกของ Youtube ได้ ซึ่งเมื่อติดแล้วจะติดไปยาวอีกยาวนานหลายเดือนมากกว่าการทำคลิปสั้นแล้วปังไม่นานก็หายไป
หรือเราสามารถใช้ Google My Business ที่จะแสดงหน้า Map โชว์ Location ร้านและรีวิวขึ้นมาก่อน การ Complete หน้าโปรไฟล์ให้ครบถ้วนตั้งแต่ข้อมูลทั่วไปรวมถึงข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งเวลาเปิดปิด คำอธิบายธุรกิจ (ควรใช้คำคีย์เวิร์ดด้วย) ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะติดต่อกับร้านได้ง่ายขึ้น ง่ายต่อการเสิร์ชเจอ และประทับใจกับร้านได้มากขึ้น
รีวิวที่ดีนั้นจะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะเลือกมาใช้บริการมากขึ้นด้วย เพราะลูกค้ามักจะเปรียบเทียบร้านจากรีวิวก่อนจะเลือกร้านใดร้านหนึ่ง ร้านเองก็ต้องเช็กรีวิวและพัฒนาร้านอยู่สม่ำเสมอ
Customer Review ที่ไม่ดี เราควรรีบติดต่อกับเจ้าของรีวิวเพื่อขอแก้ไขสิ่งที่ลูกค้าไม่พึงพอใจ ให้ลูกค้าลบคอมเมนต์ หรือต้องแสดงความรับผิดชอบผ่านช่องทางอื่น ๆ ให้ลูกค้าที่มาอ่านรีวิวได้รับรู้ว่า ปัญหาของร้านได้รับการแก้ไขแล้ว
หวังว่าบทความที่นำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ
- ลดทั้งร้าน ลดล้างสต็อก! ลดราคากันถล่มทลายขนาดนี้ การ Sale บ่อยๆ ธุรกิจได้อะไรบ้าง?
- USP คืออะไร ทำไมถึงสำคัญกับร้านอาหาร?
- เล่าเรื่องบน TikTok ให้เวิร์ก ถอดสูตรมืออาชีพ หลัก ๆ เขาทำกันยังไง
- Decoy Pricing การตั้งราคา กลางที่ทำให้ลูกค้าไขว้เขวจนยอมจ่ายแพงกว่าเดิม
- ทุกวันนี้ร้านเรามีลูกค้ากี่ประเภท? รู้จักลูกค้า 5 กลุ่ม ที่ทุกธุรกิจจะต้องเจอ รวมถึงร้านอาหารด้วย
- ทำยังไงให้ลูกค้าซื้อ อะไรบ้างที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ?
- แจกสูตรหาลูกค้าใหม่ ขยายฐานลูกค้าแบบเร่งรัด สู่การเติบโตในระยะยาว
- หา Customer Insight เขาหากันยังไง?
- ขายได้แน่แค่รู้จักลูกค้า ลูกค้า 4 ประเภทที่คนทำธุรกิจจะต้องเจอ
- สร้างแบรนด์แบบงบน้อย ก็ปังได้ สร้างแบรนด์ให้คนรู้จักด้วยงบจำกัดทำยังไง
- ทำอย่างไรเมื่อเปิดร้านใหม่ แต่ ไม่มีลูกค้าเข้าร้าน
