ของเหลือทิ้งในครัวทำอะไรได้บ้าง ?
เพิ่มมูลค่าของเหลือทิ้งในครัว ด้วย 3 ไอเดีย เปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นศูนย์ สำหรับร้านอาหาร
ของเหลือทิ้งจากการคัดและตัดแต่ง วัตถุดิบในครัวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เว้นแต่เราจะซื้อผักและเนื้อสัตว์ที่หั่นและตัดแต่งเรียบร้อยแล้วมาทำอาหารในครัว อาจจะเพิ่มในเรื่องต้นทุนแต่ก็สะดวกและรวดเร็ว ที่สำคัญทำให้ของเสียที่เหลือทิ้งแทบจะกลายเป็นศูนย์
แต่ถ้าเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะมีวิธีอะไรที่ช่วยจะช่วยเพิ่ม Value ของเหลือทิ้งเหล่านั้น ให้มีประโยชน์ที่สูงสุดกันล่ะ วันนี้เรามีวิธีนำของเหลือทิ้งจากการตัดแต่ง มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยไอเดีย 3 เปลี่ยน ที่เราจะมาแชร์กันดังนี้
#เปลี่ยนเศษวัตถุดิบที่เหลือจากการตัดแต่งให้กลายเป็นอาหารจานใหม่
วัตถุดิบที่เหลือจากการตัดแต่ง สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นก็คือ เนื้อสัตว์และผัก
หลังจากที่เราตัดแต่งผักเนื้อสัตว์ก่อนนำมาทำอาหาร สิ่งที่เรามักจะพบเจอบ่อยๆนั่นคือ เศษเนื้อสัตว์ที่เหลือจากการตกแต่ง เช่น ชิ้นเนื้อที่ไม่สวย ต้ดแต่งแล้วไม่ได้ขนาดตามที่ต้องการ หรือแม้แต่เปลือกกุ้ง ก้างปลา กระดูกไก่ กระดูกหมูที่เหลือทิ้งจากการตัดแต่ง ซึ่งเราสามารถนำมาทำเมนูใหม่ ๆ ได้
เช่น เศษเนื้อสัตว์ ที่เหลือจากการตัดแต่ง เราสามารถนำมาบดละเอียดแล้วนำมาเป็นส่วนผสมสำหรับทำ ไส้เบอร์เกอร์, มีทบอล ,หมู /ไก่ บะช่อ สำหรับใส่ในแกงจืด , ลาบก้อน ฯลฯ
กระดูกไก่, กระดูกหมู, ก้างปลา, เปลือกกุ้ง สามารถนำมาต้มเป็นน้ำสต๊อกเพื่อใช้เป็นส่วนผสมของเมนูอาหารในร้านได้
หนังไก่ คืออีกส่วนหนึ่งที่เหลือจากการตัดแต่ง ซึ่งถ้ามีในปริมาณไม่เยอะ ให้เราล้างทำความสะอาดแล้วเก็บในช่องแช่แข็ง เมื่อเก็บได้ปริมาณมากพอ เราสามารถนำมาทำหนังไก่มาทอด เป็นเมนูพิเศษ หรือ นำมาอบแห้ง บดหยาบ ๆ แล้วโรยหน้าเมนูสลัดหรือสปาเก็ตตี้ เพื่อเพิ่มกลิ่นรสและเนื้อสัมผัสเมนูนั้นๆให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น
เศษผัก ที่เหลือจากการตัดแต่ง ผักเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่มีส่วนเหลือทิ้งจากการตัดแต่งมากเป็นอันดับต้นๆ ในผักสด 1 กิโลกรัม เมื่อนำมาตัดแต่งจะเหลือส่วนที่กินได้อยู่ประมาณ 700 – 800 กรัม ขึ้นอยู่กับชนิดของผัก นั้นหมายถึงส่วนที่เราจะต้องคัดทิ้งจะมีอยู่ประมาณ 20-30% เลยทีเดียว
ซึ่งเราสามารถลดปริมาณ Weste ให้ลดลงได้ด้วยการทำเศษผักที่เหลือจากการตัดแต่ง ไปต้มทำน้ำสต๊อกผัก เพื่อใช้เป็นส่วนผสมในเมนูต่าง ๆ มีที่เราทำในร้านได้ หรือ แม้กระทั่งเศษผักที่หรือมาสับให้ละเอียดแล้วผสมลงในเนื้อสัตว์เพื่อทำเมนูอื่น ๆ ได้ตามต้องการ
#เปลี่ยนเศษอาหารไปเป็นของใช้ที่มีประโยชน์
เศษผักและผลไม้ที่เราตัดแต่งทิ้งเราสามารถนำไปทำเป็น EM (Effective Microorganisms) หรือน้ำจุลินทรีย์ เพื่อใช้ลดน้ำต้นไม้ หรือใช้สำหรับล้างทำความสะอาดครัวได้ โดยนำเศษผักและผลไม้ มาหมักกับกับน้ำตาลทรายแดงหรือกากน้ำตาล ใช้ระยะเวลาในการหมักนานประมาณ 20-90 วัน (ยิ่งนานยิ่งดี)
หลังจากหมักได้ที่แล้วให้นำน้ำ EM มาผสมกับ น้ำ100 เท่า นำมาใช้ฉีดพ่นทำความสะอาดโต๊ะและพื้นในครัว จะช่วยดับกลิ่นคาว กำจัดคราบไขมัน แก้ปัญหาท่อตัน ดับกลิ่นท่อน้ำทิ้ง ขจัดคราบผนังห้อง หรือนำไปใช้ ล้างทำความสะอาดห้องน้ำ หรือผสมกับน้ำ 50 เท่า ราดลงในโถส้วมและท่อน้ำทิ้ง ก็จะช่วยย่อยสลายกากตะกอน แก้ปัญหาท่อตัน ส้วมเต็ม ได้อีกด้วย
#เปลี่ยนของเหลือทิ้งให้กลายเป็นเงิน
น้ำมัน คืออีกสิ่งที่มักจะเหลือทิ้งจากการทำอาหาร โดยร้านที่ขายอาหารทอดในปริมาณมากต่อวัน ก็จะมีน้ำมันที่เหลือจากการใช้ในปริมาณมาก ซึ่งเราสามารถนำไปเราสามารถขายได้โดยแยกเศษอาหารออกก่อนเทเก็บใส่ในปี๊บหรือขวด แล้วชั่งกิโลขาย เพื่อนำไปแปรรูปเป็นน้ำมันไบโอดีเซลและสบู่ ได้ในราคากิโลกรัมละ 20-35 บาท เลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้คือวิธีการเพิ่มมูลค่าของ Waste หรือของเสียที่จากร้านอาหารของเรา นอกจากจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดแล้ว ยังเป็นการบริหารจัดการขยะที่เหลือจากการเตรียม ซึ่งเป็นการลดขยะที่เหลือจากอาหารอย่างยั่งยืนอีกด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือ 3 ไอเดียเปลี่ยนของเสียให้กลายเป็นศูนย์ สำหรับร้านอาหารค่ะ หวังว่าเคล็ดลับหลังครัวร้านอาหารจากเชฟหมีที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกคนนะคะ ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 🥰
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : @torpenguin
YouTube: Torpenguin
อ่านบทความ Cookวงใน อะไรต่อดี?
- สร้างเมนูใหม่กำไรเข้าร้าน ด้วยไอเดีย จัดการ Food Waste สไตล์ตะวันตก
- 5 ปัจจัยที่มีผลต่อการหา แหล่งซื้อวัตถุดิบ และอุปกรณ์เข้าร้าน ได้ของดีคุมต้นทุนได้
- 4 ปัญหาวัตถุดิบ ที่เจ้าของร้านต้องเจอ พร้อมวิธีรับมือ
- ต้นทุนวัตถุดิบสูง ปัญหาใหญ่เจ้าของร้านอาหาร หาทางออกอย่างไร ให้ลูกค้าไม่หนี
- เคล็ดลับ นับสต๊อกร้านอาหาร และจัดการวัตถุดิบ ทำเป็นเห็นกำไร
- วิธีดูวันหมดอายุของซอส เรียนรู้เรื่อง Shelf Life สำหรับธุรกิจร้านอาหาร
- คืนชีพผักเหี่ยว ให้กลับมาสดกรอบน่ากิน สำหรับร้านอาหาร 3 วิธีนี้