การตั้งราคาขาย

การตั้งราคาขาย 10 แบบ ที่ใช้กันบ่อยที่สุดในโลก

 

การตั้งราคาถือเป็นศาสตร์ที่เจ้าของร้านส่วนใหญ่มักคิดว่าไม่สำคัญ จะตั้งราคาไหนก็ได้ตามใจตัวเอง แต่ความเป็นจริงแล้ว การตั้งราคาบางครั้งสามารถกำหนดผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เลย

 

วันนี้ขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับกลยุทธ์การตั้งราคาขายที่พี่ปิ๊ก ธรรศภาคย์ เลิศเศวตพงศ์ ได้เขียนไว้ในหนังสือวิชาธุรกิจที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน กันค่ะ 10 กลยุทธ์การตั้งราคา ที่ใช้กันบ่อยที่สุดในโลกมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

 

1. Maintain Margin

หรือบางกรณีอาจเรียกว่า Fixed Margin คือการตั้งราคาที่เป็นการกำหนดไปเลยว่ากำไรต้องเป็นกี่%เป็นอย่างน้อย บวก/ลบได้นิดหน่อย ราคาขายจึงขึ้น/ลงตามราคาต้นทุนที่ปรับตัวไปเรื่อยๆ

วิธีนี้เราพบการใช้เป็น 2 ประเภท แบบแรกคือพวกบริษัทที่ขายของผ่านห้างฯจะกำหนด margin กับห้างว่าห้างฯจะได้กำไรที่ X% ไม่ว่าสินค้านั้นจะขายช่วงปกติหรือโปรโมชั่นก็ตาม บริษัทที่บ้าจี้แข่งกันเยอะๆก็จะเข้าทางห้างเพราะต่างคนต่างควักเนื้อแข่งกันเอง ห้างฯก็แหย่ซ้ายที ขวาที รับเงินอย่างเดียว

อีกมุมนึงของการใช้คือ เราเอาไว้รักษาระดับกำไรของเราเอง เพื่อเป็นการรักษาระดับกำไรไว้ให้คงที่พอกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

 

2. Mixed Margin

คือการตั้งราคาสินค้าในร้านแต่ละตัวมีกำไรไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมหลายประการเช่น ระดับการแข่งขัน ความต้องการของตลาด หรือสินค้าต่างประเภทก็บวกกำไรต่างกัน เป็นวิธีที่ควรนำไปใช้อย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ราคาขายในร้านดูหลากหลายและมีมิติมากขึ้น

 

3. Match Price

คือการตั้งราคาแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันกับคู่แข่ง แกลดฉันลดให้เหลือเท่ากัน แกขายแพงฉันก็จะแพงด้วย วิธีแบบนี้เห็นบ่อยในบ้านเรา คนได้ประโยชน์คือผู้บริโภคและคนกลาง ส่วนเจ้าของสินค้าก็ตายอย่างเดียว

 

4. Low-Key

การตั้งราคาตัวเองให้ต่ำกว่าคู่แข่งในช่วงแนะนำตัวเองเข้าสู่ตลาด เพราะถ้าไม่ถูกกว่าลูกค้าก็ไม่ซื้อ ธุรกิจที่ไม่มีคุณค่าหรือแตกต่างจำเป็นมักเปิดตัวเข้าตลาดด้วยวิธีนี้ทั้งนั้น ถ้าลูกค้าซื้อแล้วเกิดการซื้อซ้ำหรือพอใจในสินค้าสินค้านั้นก็อาจรอด

แต่ถ้าสินค้าของคุณมีคุณค่าขัดเจน ตรงความต้องการผู้บริโภค ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้วิธีนี้เลย

 

5. Loss Leading

การตั้งราคาสินค้าบางตัวให้ต่ำเพื่อดึงคนให้เข้าร้านและซื้ออย่างอื่นไปด้วย พวกห้างฯค้าปลีกชอบใช้มาก เคล็ดลับในการดัดหลังพวกห้างฯงคือเราเข้าไปซื้อเฉพาะสินค้าที่ลงเมล์ขายกว่าทุนเท่านั้นพอ ที่เหลือไม่ต้องซื้อ

 

6. EDLP

คือการตั้งราคาสำหรับพวกที่เกิดมาเพื่อขายถูกกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะสินค้าตัวหลักและสินค้าขายดี แต่จะทำแบบนี้ได้ ต้องมีความสามารถไปหาเงินสนับสนุนจากบริษัทเจ้าของสินค้าด้วย คิดง่ายๆเลยว่าไม่มีใครยอมเฉือนเนื้อตัวเองขายแน่นอน แต่สิ่งที่จะได้คือกำไรจากการทำเป้าการขาย หรือที่เรียกว่า rebate ใครยังดีลพวกกำไรหลังบ้านไม่เก่งอย่าเอาวิธีนี้ไปใช้นะครับ

 

7. Loss-To-Win

การตั้งราคาแบบป่วนตลาดเพื่อให้คนอื่นอยู่ไม่ได้ จากนั้นตัวเองค่อยเข้ายึดครอบครองที่หลังเมื่อไม่เหลือคู่แข่งแล้ว คุณต้องทุนหนา สายป่านยาวมากพอที่จะแซะให้คู่แข่งเจ๊งไปก่อนได้ จากนั้นก็ยึดตลาดแต่เพียงผู้เดียว

 

8. Fixed Price

การกำหนดราคาขายคงที่ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าต้นทุนจะขึ้น/ลงอย่างไรก็ตาม

 

9. Mixed Charges

บางครั้งอาจเรียกว่า Bundle Price หมายถึงการเอาของหลายๆอย่างมาขายรวมกันแล้วคิดราคารวมกันไป เป็นการตั้งราคาที่จับทางยากหน่อยว่าตกลงอันไหนถูกหรือแพง

ใครซื้อของออนไลน์บ่อย ๆ จะเจอว่าบางครั้งค่าขนส่ง ค่าส่งด่วน ประกันสูญหายก็ถูกนำมารวมเข้าไปด้วย

 

10. Over Price

การตั้งราคาแรกให้แพงไว้ก่อนแล้วไปขายตอนโปรฯหรือลดราคาใหญ่ ลอแล้วยังไงก็กำไรเพราะราคาตั้งไว้สูงเกิน พวกสินค้าแฟชั่นบ้านเราชอบทำแบบนี้เพราะสินค้ามี turn เร็ว แป๊บ ๆ ตกฤดูกาล ดังนั้นลูกค้าจึงมักรอซื้อตอน end of season sale ซึ่งหารู็ไม่ว่าเค้าก็ตั้งราคาไว้รอขายตอนนั้นเหมือนกัน

 

 

สรุปแล้ว การตั้งราคานั้น ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ไหน วิธีใด เราต้องเข้าใจเสมอว่าลูกค้าจะซื้อของในราคาที่เค้าประเมินแล้วว่าคุณค่าของมันอยู่ในระดับไหน ถ้าของไม่มีคุณค่า ไม่สร้างประโยชน์ให้เค้า ราคาถูกแค่ไหนเค้าก็ไม่ซื้อ กลับกันถ้าของนั้นช่วยแก้ปัญหาให้เค้าได้จริง ราคาสูงหน่อยเค้าก็เต็มใจจ่ายค่ะ

 

เราจึงควรโฟกัสการทำงานที่การสร้างคุณค่า มากกว่ามานั่งหาลูกเล่นเรื่องราคาครับ ลองเอาไปใช้ดูครับ ร้านจะได้มีสีสันมากขึ้น

 

เนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ : หนังสือวิชาธุรกิจ ที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน

สนใจสั่งซื้อได้ที่ https://bit.ly/3t2MAWZ

 

 

และนี่ก็คือ การตั้งราคาขาย 10แบบที่ทั่วโลกใช้กันค่ะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ประการทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊

 

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin

 

📌 อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ