การตลาดร้านอาหาร

การตลาดร้านอาหาร ที่ควรเลี่ยง ถ้าไม่อยากเข้าเนื้อแบบไม่รู้ตัว

 

การตลาดที่ดีจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการเพิ่มยอดขาย แต่ถ้าคิดพลาดหรือวางแผนไม่รอบคอบ จากหน้ามือจะเปลี่ยนเป็นหลังมือทันที เพราะมันอาจทำให้ขาดทุนหนักกว่าที่คิด

ต่อให้ร้านอาหารอร่อยแค่ไหน ถ้าวางกลยุทธ์ผิด เงินจะไหลออกแบบไม่รู้ตัว นี่คือ 6 ข้อผิดพลาดที่เจ้าของร้านอาหารควรเลี่ยง

 

#ลดราคาแบบไม่มีกำหนด จนลูกค้าติดของถูก

บางร้านเปิดมาแล้วเจอลูกค้าน้อย ก็รีบจัดโปรลดราคา 50% หรือลดแรง ๆ แบบไม่คิดต้นทุน หวังว่าจะดึงลูกค้าได้เยอะขึ้น มันก็ได้อยู่หรอก แต่การทำบ่อยแบบนี่คือหลุมพรางดี ๆ นี่เอง

ทำนานๆ เข้ากำไรแทบไม่เหลือ พอถึงเวลาขึ้นราคา ลูกค้าหายหมด ทำให้ภาพลักษณ์ร้านเป็น “ร้านถูก” ไม่ใช่ “ร้านอร่อย”

 

#ทำโปรโมชั่นโดยไม่คำนวณต้นทุน

บางร้านอยากเพิ่มยอดขายเลยจัดโปรโมชั่นแบบหน้าใหญ่ใจใหญ่ เช่น บุฟเฟต์หมูกระทะ 199 บาท ไม่จำกัดเวลา หรือ เครื่องดื่มรีฟิลไม่อั้น แต่ลืมคำนวณว่าต้นทุนจริง ๆ ต่อหัวเท่าไหร่

ถ้าทำไปเรื่อย ๆ แบกรับต้นทุนไม่ไหว อาจต้องปิดร้านก่อนคืนทุน ทางออกของข้อนี้ก็คือ คิดให้ดีว่าต้นทุนต่อจานเป็นเท่าไหร่ แล้วค่อยตั้งราคาโปร

 

#ทำเมนูเยอะเกินไป จนต้นทุนบวม

เจ้าของร้านบางคนกลัวลูกค้าเบื่อ เลยพยายามเพิ่มเมนูใหม่ ๆ ตลอดเวลา จนสุดท้าย สต๊อกเยอะ วัตถุดิบเหลือทิ้ง และจัดการร้านยากขึ้นตาม และจมทุนในที่สุด

และผลกระทบไม่ได้มีแค่เรื่องของต้นทุนวัตถุดิบ เรื่องของพนักงานก็กระทบกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน ทุกครั้งที่เพิ่มเมนูใหม่ พนักงานก็ต้องเทรนนิ่งใหม่ ยิ่งคุณ Add เมนูเยอะขึ้น พนักงานก็ต้องเรียนรู้เมนูเยอะขึ้น ทำให้ทำงานช้าลง

เอาจริงเรื่องนี้อาจลามไปถึงเรื่องของ Brand Identity ด้วย หลายคนเพิ่มนู้นเพิ่มนี่จนเสียเอกลักษณ์ของตัวเองไป

ทางออกของข้อนี้คือการไม่ออกเมนูใหม่สุ่มสี่สุ่มห้า แต่ให้ทำการบ้านก่อนออกเมนูใหม่ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องต้นทุน วัตถุดิบ เทรนด์ ฯลฯ

โฟกัสเมนูขายดี แล้วพัฒนาให้ดีขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่คุณสามารถทำได้ รวมไปถึงลองคิดครีเอต เมนูที่ใช้วัตถุดิบซ้ำกันในหลายเมนู เพื่อลดของเหลือทิ้งและทำให้เราบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้นด้วย

 

#ทำบัตรสะสมแต้มแบบไม่มีแผน ผลสุดท้ายคือแจกจนเจ๊ง

ไม่ว่าใครก็อยากให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำทั้งนั้น หลายร้านเลยเลือกใช้โปรสะสมแต้ม เช่น “ซื้อ 10 ฟรี 1” แต่ลืมคิดต้นทุนให้ดี บางทีต้นทุนกำไรต่อจานมีน้อย พอแจกฟรีจริง ๆ เท่ากับว่าขาดทุนไปเลย

หรือบางร้านแจกแต้มง่ายเกินไป สุดท้ายลูกค้าได้กินฟรีกันรัว ๆ พอนานเข้าลูกค้าก็รอแต่ของฟรีเลยทีนี้ ไม่จ่ายเงินในระยะยาว

ดังนั้น ก่อนเลือกใช้ทางนี้ คิดก่อนว่า ลูกค้าต้องซื้อกี่ครั้งถึงจะคุ้มต้นทุนของร้าน 

 

#แจกส่วนลดดึงลูกค้าใหม่หนักเกินไป จนลูกค้าเก่ารู้สึกไม่แฟร์

บางร้านอยากดึงลูกค้าใหม่ เลยให้โปรแรง ๆ เช่น “ลูกค้าใหม่ลด 50%” หรือ “ลูกค้าใหม่ ซื้อ 1 แถม 1” ซึ่งแน่นอนว่าคนแห่กันมา แต่ปัญหาคือ ลูกค้าเก่าจะรู้สึกไม่แฟร์ ที่ตัวเองต้องจ่ายราคาเต็มมาตลอด สุดท้ายกลายเป็นเสียฐานลูกค้าประจำ

จำไว้ว่า “1 ลูกค้าที่รักษาไว้ได้ คือ 1 ลูกค้าที่ไม่ต้องเสียเวลาหาเพิ่ม”

ไม่ได้หมายความว่าการขยันหาลูกค้าใหม่เป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ต้องบาลานซ์ 2 อย่างนี้ให้ดี ทำแล้วเราก็ห้ามละเลย หรือไม่เอาใจใส่คนคุ้นเคยที่เข้าอกเข้าใจกันมานานอย่างฐานลูกค้าเก่าด้วยนะ

 

#โปรโหดเกินไป จนพนักงานทำงานไม่ไหว

เวลาจัดโปรโมชั่น เรามักจะคิดแค่ “ทำยังไงให้ลูกค้าเยอะที่สุด?” แต่ลืมคิดไปว่า “ถ้าลูกค้าเยอะขนาดนั้น ร้านเราจะไหวมั้ย?”

บางร้านทำโปรแรงมาก ผลคือ ลูกค้าทะลักจนพนักงานรับไม่ไหว คิวแน่น ในครัวทำไม่ทัน เสิร์ฟก็ช้า ลูกค้าหัวร้อน แล้วสุดท้ายร้านกลายเป็นที่พูดถึงในทางลบ ลูกค้าไม่มา แต่เราดันสต็อกของไว้แล้ว ต้นทุนปานปลาย แทนที่จะกำไรกลับเข้าเนื้อในที่สุด

ดังนั้น เวลาจะออกโปรฯ อะไรก็แล้วแต่ อย่างลืมประเมินความพร้อมของทีมเราด้วย ทำแบบที่ร้านและคนของเรารับไหว

 

“โปรฯที่ดีต้องช่วยร้าน ไม่ใช่ทำให้ร้านพัง”

 

หวังว่าบทความ การตลาดร้านอาหาร ที่นำมาฝากกันในวันนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการและคนที่อยากเปิดร้านอาหารทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin

 

📌 อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ