กลัวร้านเจ๊ง
เปิดร้านอาหาร กลัวร้านเจ๊ง

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นร้านอาหารเกิดใหม่เยอะมาก แต่ก็ปิดตัวลง ล้มหายตายจากไปก็เยอะ บางแบรนด์เริ่มต้นมาได้เป็นอย่างดี ยอดขายเติบโตหลายร้อยล้าน แต่สุดท้ายกลับเจ๊งไม่เป็นท่าไปในระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น จากที่มีเป็นสิบ ๆ สาขาตอนนี้กลับเหลือเพียง 1-2 สาขา เท่านั้น เรียกว่าทำเอาเจ้าร้านต่าง ๆ โดยเฉพาะมือใหม่ ใจเสียไปตาม ๆ กัน แต่ถ้าเรารู้ทัน ปัญหาเหล่านั้นที่ทำให้ร้านต้องปิดตัวลง ก็อาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นใครที่ กลัวร้านเจ๊ง ต้องรู้ว่าสิ่งที่ไม่ควรทำในการเปิดร้านอาหาร คืออะไร นี่คือ 5 ข้อที่คุณควรหลีกเลี่ยง

กลัวร้านเจ๊ง ต้องรู้ 5 สิ่งไม่ควรทำ!ในการเปิดร้านอาหาร

1. อย่าโลภมาก
หลายร้านพอเริ่มเปิดสาขาแรกขายดีมาก เลยตัดสินใจขยายสาขาสองสามทันทีทันใด เพราะคิดว่ายิ่งมีสาขาเยอะเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสสร้างกำไรมากเท่านั้น จนลืมคิดไปว่าการขยายสาขาที่เร็วเกินไป ก็เหมือนกับการรีบสร้างบ้านให้เสร็จโดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างว่าแข็งแรงดีหรือยัง พอวันนึงมีลมพายุ มีน้ำท่วม บ้านหลังนั้นที่โครงสร้างไม่แข็งแรงก็พังครืนลงมา

ไม่ต่างอะไรกับการทำร้านอาหาร ที่หากคุณเร่งรอบ เร่งขยายเพราะมีเงินเป็นตัวนำ มีความโลภที่อยากได้เงินมาก ๆ โดยไม่สนเรื่องการวางระบบร้านให้แน่น สร้างทีมงานให้พร้อมก่อน วันนึงที่โดมิโน่ตัวแรกมันล้ม มันก็จะพาตัวอื่น ๆ ล้มลงไปทั้งหมดนั่นเอง

2. อย่าทำร้านแบบ เสียมากไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้
มีคนจำนวนไม่น้อยเลยนะครับที่ทำร้านอาหารโดนใช้แนวคิดนี้ ที่ทุกวันนี้ไม่ได้ทำร้านเพราะอยากได้เพียงตัวเงินเพียงอย่างเดียว แต่อยากได้หน้าด้วย ทำให้คนยุคนี้กล้าที่จะลงทุนเป็นจำนวนเงินที่มาก โดยที่ไม่สนใจเลยว่าจะ Over budget ไปเท่าไหร่ และลงทุนมากขนาดนี้จะคืนทุนจริง ๆ รึเปล่า

แต่อยากให้ดึงสติกลับมานิดนึงก่อน ยิ่งคุณลงทุนทำร้านมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้คุณมีโอกาสที่จะคืนทุนช้าลงเพิ่มขึ้นเท่านั้นหากคุณ กลัวร้านเจ๊ง สิ่งที่คุณควรจะต้องทำคือการประมาณตนว่าลงทุนแค่ไหนถึงจะพอดี ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป ไม่ใช่หมายถึงไม่ต้องลงทุนเลย แต่ลงทุนให้เพียงพอที่จะดึงลูกค้าเข้าร้าน และนำเงินส่วนที่เหลือเก็บไว้เป็นเงินสดสำรองในการทำการตลาดหรือใช้ในยามฉุกเฉินแทน

กลัวร้านเจ๊ง

3. สนใจแต่ประโยชน์ส่วนตัวจนละเลยลูกค้าและสังคม
ไม่ผิดที่คุณทำร้านอาหารขึ้นมาเพื่อต้องการกำไร (Profit) แต่จะมีประโยชน์อะไรถ้าคุณเป็นร้านอาหารที่สร้างกำไร แต่ไม่มีใครรัก และเมื่อไหร่ที่คุณทำผิดพลาดแทนที่ลูกค้าจะให้อภัยและช่วยเหลือคุณ เค้ากลับจะเหยียบคุณซ้ำเพราะคุณไม่เคยช่วยเหลืออะไรเค้าหรือสังคมเลย

แต่เมื่อไหร่ที่คุณได้ Profit แล้วลองกลับมาย้อนดูว่าคุณสามารถให้อะไรกับ People ซึ่งก็คือพนักงานหรือลูกค้าคุณได้บ้าง และคุณจะให้อะไรกับ Planet ซึ่งหมายถึงโลกและสังคมที่คุณอยู่ได้บ้าง จะทำให้แบรนด์คุณเป็นแบรนด์ที่มีคนรักมากขึ้น และพร้อมจะสนับสนุนไปตลอด

ผมไม่ได้หมายถึงว่าคุณจะต้องเอากำไรที่ได้ไปบริจาคตามที่ต่าง ๆ แต่หมายถึงคุณสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานและลูกค้าคุณได้อย่างไร เช่น คุณเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพที่ดีขึ้น วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ ไม่ใส่สารกันบูด ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารเร่งโต ให้สิทธิ์ลูกค้าได้รู้ถึงที่มาของวัตถุดิบ ในขณะเดียวกันคุณอาจช่วยสังคมได้ด้วยการเลือกใช้วัตถุดิบบางส่วนที่ปลูกหรือผลิตโดยคนในชุมชน เพื่อให้เค้ามีรายได้และทำให้ชุมชนที่คุณอยู่เติบโตขึ้น เหล่านี้คือตัวอย่างเล็ก ๆ ที่จะทำให้ร้านของคุณนอกจากจะได้ Profit แล้วยังเกิดประโยชน์ต่อ People และ Planet ด้วย

4. อย่าตัดสินอะไรด้วยความรู้สึก แต่จงตัดสินใจจากข้อมูล
พื้นฐานที่สำคัญของการทำร้านอาหารคือ ความรู้ความเข้าใจในธุรกิจร้านอาหารอย่างแท้จริง ไม่มีทางที่คุณจะทำร้านให้ประสบความสำเร็จโดยปราศจากข้อมูลหรือความรู้ไปได้เลย ต่อให้การปรุงอาหารจะเป็นเหมือนศิลปะ แต่แท้จริงแล้วมันแฝงไปด้วยระบบอาหารที่ซับซ้อนและข้อมูลที่มากมายอยู่เบื้องหลังด้วยกันทั้งสิ้น หากคุณละเลยในส่วนนี้ก็ดูเหมือนว่าคุณไม่ได้ กลัวร้านเจ๊ง เลยแม้แต่นิดเดียว

การที่คุณจะทำข้าวผัดกะเพรามา 1 จาน มันต้องผ่านการกำหนดสเป็กวัตถุดิบที่ดี ต้องผ่านการถอดสูตรวัตถุดิบออกมาเป็นกรัม ต้องมี SOP ในการประกอบอาหารที่ถูกต้อง ถึงทำให้ข้าวผัดกะเพราจานนั้นออกมาได้ถูกต้อง ทั้งรสชาติและปริมาณ

รวมไปถึงการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ที่ไม่ควรใช้ความรู้สึกเข้ามาตัดสิน คุณจะสามารถใช้สัญชาตญาณหรือความรู้สึกในการตัดสินอะไรก็ตามได้ก็ต่อเมื่อคุณมีประสบการณ์กับสิ่ง ๆ นั้นมามากพอแล้ว แต่ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ในธุรกิจนี้ คุณจงทำการเก็บข้อมูลและนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจในทุกครั้งและทุกเรื่อง จะลดโอกาสในการตัดสินใจที่ผิดพลาดลงไปได้มาก .

5. อย่าเอาตัวรอดเพียงคนเดียว
หากคุณเติบโตไปได้ดีแล้ว อย่าคิดที่จะเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียว แต่จงพาเพื่อนในธุรกิจอื่น ๆ เติบโตไปพร้อมกับคุณด้วย จะมีประโยชน์อะไรที่คุณเติบโตขยายสาขาได้ แต่คุณไม่เหลือใครข้างกายของคุณเลย

ทุกวันนี้การที่คุณจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนจำเป็นที่จะต้องมีเพื่อน หรือมีพันธมิตร เพราะไม่มีใครที่จะเก่งคนเดียวไปได้ตลอด การที่คุณสามารถเปลี่ยนจากคู่แข่งขัน มาเป็นเพื่อนในธุรกิจแล้วร่วมกันแบ่งปันได้ ถือเป็นการลดคู่แข่ง และยังถือเป็นการช่วยเพิ่มทีมงานของคุณให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำไป

หลายครั้งที่ผมได้เทคนิคและความรู้ใหม่ ๆ มาจากเพื่อนที่ทำร้านอาหารด้วยกัน และหลายครั้งที่เราก็แชร์ความรู้ที่เรามีให้กับเพื่อน ๆ ร้านอาหารรอบข้าง เมื่อไหร่ที่คุณสามารถสร้างคอมมูนิตี้ทางธุรกิจที่คุณอยู่ได้ เปรียบเสมือนคุณเป็นปลาเล็กที่รวมตัวกันเป็นปลาฝูงใหญ่ เป็นเสมือนเกราะกำบังเวลาภัยอันตรายเข้ามา และเพื่อไปสู้กับปลาตัวใหญ่ที่ต้องการที่จะเข้ามากินคุณ

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin – ผู้ชายขายบริการ
Website : Torpenguin
Instargram : torpenguin

👉 อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คิดแบบ Sushiro ร้านซูชิสายพานที่ใช้ทุกอย่างในร้านเก็บข้อมูลลูกค้า ยันทำคอนเทนต์
Lucky’s Hungry ข้าวผัดอเมริกันบนเดลิเวอรี ที่ไม่ได้ใช้แค่ “โชค” เป็นส่วนประกอบ
เช็กเลย! คุณกำลัง ลดต้นทุนร้านอาหาร แบบผิด ๆ อยู่หรือเปล่า?
ถอดบทเรียน พี่เขียวข้าวเหนียวห่อ ทำคอนเทนต์ยังไงให้ปังบน TikTok
เจ้าของธุรกิจ ไม่ได้เป็นง่ายอย่างที่คิด 5 สิ่งที่ เจ้าของกิจการต้องรู้ดีที่สุด
วิธีบริหารคน แบบฉบับ McDonald’s ทำอย่างไร ถึงสร้างมาตรฐานเหมือนกันทุกสาขาทั่วโลก