เทศกาลหยุดยาว เป็นช่วงที่ร้านอาหารหลายร้านมักจะปิด แต่ก็มีบางร้านที่อยากโกยกำไรในช่วงนี้ จึงเปิดให้บริการในวันหยุด บอกเลยว่าในช่วงวันหยุดเทศกาล ถือเป็นช่วงเวลาทำเงินของร้านอาหารเลยก็ว่าได้ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะออกมาเฉลิมฉลองกันนอกบ้าน
หากคุณอยากให้ เทศกาลหยุดยาว ที่ใกล้จะมาถึงนี้มีลูกค้าเข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่อง และมองหาวิธีการเพิ่มกำไรให้กับร้าน พร้อมกับทำให้ลูกค้าพึงพอใจ ลองนำเคล็ดลับในบทความนี้มาปรับใช้ได้เลย
1. เตรียมเมนูล่วงหน้า ลดเวลาในการทำอาหาร
ช่วงเทศกาลหยุดยาวเป็นช่วงที่ลูกค้ามักจะเข้ามาใช้บริการกันแน่นร้าน หากไม่เตรียมตัวให้ดี ก็อาจทำให้เกิดปัญหาเสิร์ฟอาหารล่าช้า หรือผิดพลาด จนลูกค้าเกิดความไม่พอใจ หนักกว่านั้นคือ เมื่อได้อาหารไม่ทันใจ ลูกค้าบางคนก็โวยวายกับพนักงานในร้าน บางคนก็ไปเขียนรีวิวในโซเชียลก็มี และปัญหานี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ลูกค้าหลายคนเลือกที่จะไม่กลับมาอุดหนุนร้านเดิมซ้ำอีก
ดังนั้น คุณควรเตรียมตัวให้พร้อม หากรู้ว่าเมนูไหนเป็นเมนูขายดีของร้าน ที่ลูกค้าหลายโต๊ะมักจะสั่งพร้อมๆ กัน แนะนำให้เตรียมเมนูนั้นเอาไว้ก่อนล่วงหน้า (Pre-cook) เช่น ลวกวัตถุดิบต่างๆ ให้พอสุก ทำน้ำซอสอเนกประสงค์เตรียมเอาไว้ เมื่อถึงเวลาที่ลูกค้าสั่งจริง จะได้ลดเวลาการปรุงอาหารลง
และทางที่ดีควรให้พนักงานรับออร์เดอร์ ช่วยแนะนำเมนูขายดีเหล่านี้ให้กับลูกค้าด้วยอีกแรง เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกเมนูได้เร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะร้านที่มีเมนูเยอะ เมนูหนาเป็นเล่มๆ ส่วนใหญ่ลูกค้ามักจะเลือกเมนูไม่ถูก หากลูกค้าถามว่า “เมนูอะไรอร่อย” แทนที่จะตอบว่า “อร่อยทุกอย่าง” ลองเปลี่ยนเป็นการสอบถามความต้องการของลูกค้า จากนั้นแนะนำเมนูที่ตรงกับความต้องการ และใช้เวลาในการทำไม่นาน จะดีที่สุด
2. จัดระบบให้พร้อม วางแผนให้เป๊ะ
ต่อเนื่องจากข้อที่ผ่านมา ในช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้าร้านอย่างต่อเนื่อง หากร้านของคุณจัดวางระบบให้พร้อม ก็จะช่วยให้การเสิร์ฟอาหารและดูแลลูกค้าเป็นไปอย่างราบรื่น
สิ่งสำคัญคือ แนะนำให้คุณจดสูตรอาหารเอาไว้ให้เป็นมาตรฐาน สำหรับใช้งานในครัว โดยเขียนให้ละเอียดว่า แต่ละเมนูมีวัตถุดิบและส่วนประกอบอะไรบ้าง มีขั้นตอนการทำอย่างไร ชั่ง ตวง วัด ให้แม่นยำมากที่สุด
นอกจากนี้ควรให้มีพนักงานคนหนึ่งคอยทำหน้าที่สื่อสารกับพนักงานในครัว โดยบอกหมายเลขโต๊ะ ตามด้วยชื่อเมนู และจำนวนจาน ให้กับพนักงานในครัว และเมื่อพนักงานในครัวทำอาหารเสร็จแล้ว พนักงานคนนี้ก็ต้องบอกกับพนักงานเสิร์ฟว่า แต่ละเมนูเป็นของโต๊ะไหน วิธีนี้จะช่วยให้ออร์เดอร์ไม่ตกหล่น สามารถออกอาหารได้เร็วและแม่นยำมากขึ้น
และเมื่อเห็นว่าลูกค้ารับประทานเมนูไหนหมดจานแล้ว ควรให้พนักงานคอยเคลียร์จานเปล่าออกไป และหากโต๊ะไหนที่มีทีท่าว่าใกล้จะอิ่ม อาจให้พนักงานเข้าไปสอบถามเรื่องเมนูอาหารหวานดูเลยก็ได้ เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องรอเมนูของหวานนานๆ นอกจากนี้ยังทำให้ร้านของเราสามารถเคลียร์โต๊ะได้ไวขึ้น พร้อมต้อนรับลูกค้าใหม่ได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย
หากมีลูกค้ารอคิวอยู่หน้าร้านแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกค้ามานั่งที่โต๊ะก่อน จึงจะรับออร์เดอร์ พนักงานสามารถรับออร์เดอร์จากลูกค้าตั้งแต่ยืนรออยู่หน้าร้านได้เลย หากโต๊ะไหนเริ่มเช็กบิลแล้ว ก็สามารถส่งออร์เดอร์ของลูกค้าหน้าร้านเข้าครัวได้ทันที
3. คำนวณวัตถุดิบให้ดี ระวังอย่าให้ของขาดหรือเน่าเสีย
ช่วงเทศกาลเป็นช่วงที่บางร้านมียอดขายดีกว่าช่วงเวลาปกติเป็นเท่าตัว ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องคำนวณวัตถุดิบให้เพียงพอต่อการขาย เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการทำกำไร และควรตรวจเช็กวัตถุดิบให้รอบคอบ ระวังอย่าให้เกิดการเน่าเสียหรือหมดอายุไปก่อน เมื่อถึงเวลาต้องใช้งานจริงๆ ก็กลายเป็นว่า วัตถุดิบไม่เพียงพอ ทำให้เสียโอกาสในการขาย และยังต้องเสียเงินซื้อวัตถุดิบเหล่านั้นมาใหม่อีกครั้ง
ทางที่ดีแนะนำให้ร้านอาหารใช้ระบบจัดการสต๊อกแบบ FIFO (First in, First Out) เพื่อลดปริมาณวัตถุดิบเหลือทิ้ง วัตถุดิบไหนที่ซื้อมาก่อน ให้หยิบใช้ก่อน และอาจจัดเรียงวัตถุดิบในตู้แช่ให้หยิบง่าย เช่น หยิบจากหน้าไปหลัง ซ้ายไปขวา เป็นต้น
นอกจากนี้ก่อนที่จะเปิดร้านในแต่ละวัน ควรตรวจสอบวัตถุดิบที่เก็บไว้เสียก่อน หากวัตถุดิบไหนใกล้จะหมดอายุแล้ว ให้รีบระบายออกไปโดยเร็ว
ไม่เพียงเท่านั้นอาจเลือกใช้ของสำเร็จรูป แทนการทำเองในบางเมนู เพื่อประหยัดต้นทุนวัตถุดิบ เช่น เมนูของทอด
4. จัดกิจกรรมหรือโปรโมชั่นที่อิงกับช่วงเทศกาล
แนะนำให้คุณประดับตกแต่งร้านให้เข้ากับช่วงเทศกาลนั้นๆ ถ้าจะให้ดีควรจัดมุมสวยๆ ถ่ายรูปไว้ด้วย เพื่อให้ลูกค้าของคุณถ่ายรูปแล้วแชร์ลงในโซเชียล การที่ลูกค้าถ่ายรูปแล้วแชร์ต่อนั้นก็เหมือนกับการช่วยโปรโมตร้านไปในตัว ทำให้เพื่อนๆ ของลูกค้ารู้ว่า ร้านของคุณยังเปิดอยู่ในช่วงเทศกาลนี้
นอกจากนี้คุณอาจจัดกิจกรรมหรือโปรโมชั่นที่น่าดึงดูด เช่น หากลูกค้าท่านใดแต่งตัวมาในธีมที่เข้ากับ เทศกาลหยุดยาว จะได้รับเมนูพิเศษแถมฟรี หรือมีกิจกรรมจับฉลาก เพื่อมอบรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้กับลูกค้า หรือมอบส่วนลดในการมารับประทานในครั้งถัดไปก็ได้เช่นกัน
เชื่อว่า วิธีการเตรียมตัวทั้ง 4 ข้อข้างต้น จะช่วยให้เจ้าของร้านอาหารเตรียมพร้อมสำหรับโกยกำไรในช่วงเทศกาลหยุดยาวที่ใกล้จะมาถึงนี้ได้
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เคล็ดลับ นับสต๊อกร้านอาหาร และจัดการวัตถุดิบ ทำเป็นเห็นกำไร
ทำไมร้านกาแฟเจ๊งเยอะ? รวมปัญหาที่คนอยากเปิดร้านกาแฟควรรู้
มัดรวม ปัญหาการเงิน ที่ร้านอาหารเจอแล้วเสี่ยงเจ๊ง รู้แล้ว รีบแก้ด่วน
10 เทคนิคตั้งชื่อร้านอาหาร ให้ลูกค้าจำง่าย ใครๆ ก็รู้จัก
วิธีจัดการ Front of House (หน้าร้านอาหาร) ที่เจ้าของร้านอาหารควรรู้
เคล็ดลับฉบับ Khao-Sō-i ร้านข้าวซอยเมืองเชียงใหม่ที่อยากยกระดับของกิ๋นคนเมืองให้ลือเลื่องไประดับโลก
ถอดความสำเร็จ ผัดไทยหมี่กรอบ เจ้าแรกของไทย ร้านแม่ทุมผัดไทยเข่ง
Image by timolina on Freepik