Steve Jobs ผู้ก่อตั้งบริษัท Apple คือบุคคลผู้พลิกโฉมหน้านวัตกรรมทางเทคโนโลยีของโลกด้วยการสร้าง smart phone อย่าง Iphone ที่เปลี่ยนโลกไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเขาเองกลายตัวแทนของความสำเร็จ ที่ใคร ๆ ก็ต่างยกย่องให้เป็นต้นแบบที่ เจ้าของธุรกิจ ใช้เป็นแบบอย่าง จนเกิดเป็นปรัชญาที่ให้ข้อคิดแก่คนทั่วโลกได้นำไปคิดหรือปรับใช้กับงานของตัวเอง และนี่คือ 7 ปรัชญาการทำธุรกิจแบบ Steve Job ที่เราควรจะนำมาปรับใช้กับธุรกิจ

 

ทำสินค้าให้ดีที่สุดเป็นอย่างแรก

ปรัชญาที่สำคัญที่สุดของ Apple คือการทำสินค้าที่มาตราฐานดีที่สุดออกมาโดย Jobs เชื่อว่าเมื่อมีสินค้าดีจะทำการตลาดง่าย และเรื่องอื่นๆ จะตามมาเอง ดังนั้นทีมวิศวกรออกแบบของ Apple จึงเต็มที่กะบการสร้างสินค้าที่มาตราฐานสูงกว่าที่อื่น โดยไม่ต้องห่วงเรื่องการตั้งราคาขาย เพราะฝ่ายธุรกิจจะมีวิธีจัดการได้เอง  

 

แล้ววันนี้เจ้าของธุรกิจอย่างเรา ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดออกมาให้ผู้บริโภคหรือยัง? ยกตัวอย่าง ธุรกิจร้านอาหาร การผลิตอาหารที่รสชาติดี จากวัตถุดิบที่ได้มาตราฐาน รวมไปถึงการใส่ใจในเรื่องความสะอาดตลอดทุกขั้นตอนการนำอาหารให้กับลูกค้า เป็นต้น

 

อย่าขายสินค้าแต่จงขายความฝัน

Steve Jobs เชื่อว่าทุกคนมีความฝัน มีเป้าหมายและมีความทะเยอทะยานในการไปสู่จุดที่ต้องการ และผลิตภัณฑ์ของ Apple เน้นในเรื่องของ design ที่แตกต่างเพื่อตอกย้ำว่าทุกคนสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้อย่างที่ต้องการ ซึ่งความฝันของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป เพราะทุกคนมีอิสรภาพในความคิด ไม่ว่าจะเป็น งาน ความร่ำรวยหรือชื่อเสียงก็ตาม

 

ยกตัวอย่าง ในธุรกิจร้านอาหาร เจ้าอื่นอาจเน้นขายปริมาณมากแต่ด้อยคุณภาพ หากเราเน้นให้ทุกคนมีแรงเพื่อไปตามของฝันของตัวเอง  เช่น ร้านอาหารอาจเติมความรักความมุ่งมั่นลงไปในอาหาร เพื่อให้สุดท้ายคนที่ได้รับประทานอาหารของเราแข็งแรง สุขภาพดีเพ่อเดินตามของฝันอย่างที่เขาต้องการ เป็นต้น

 

 

ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของลูกค้า

Apple ให้ความสำคัญกับ “ประสบการณ์ของลูกค้าขณะที่สัมผัสหรือใช้สินค้า” และนี่คือสิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีเจ้าไหนสามารถทำได้อย่าง Apple การที่เจ้าของธุรกิจคำนึงถึงความรู้สึกของลูกค้าแบบนี้ กลับกลายเป็นแนวคิดตั้งต้นทั้งหมดในการออกแบบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สินค้า รูปแบบร้าน การจัดวางสินค้า การสื่อสารให้ออกมากระตุ้นความรู้สึกของลูกค้าได้มากที่สุด

อย่างธุรกิจร้านอาหารที่สามารถทำให้ลูกค้ามีความสุขกับการได้กิน เพราะการได้กินอะไรที่อร่อยนั้นถือเป็นการผ่อนคลายที่ดีอย่างหนึ่ง การออกแบบร้าน เมนูอาหาร หรือแม้แต่บริการที่ทำให้ลูกค้าร็สึกอยากจ่าย ก็ถือเป็นการให้ความสำคัญต่อความรู้สึกของลูกค้าเช่นกัน

 

สื่อสารและนำเสนอสินค้าได้อย่างยอดเยี่ยม

แม้ผลิตภัณฑืจดีมากแค่ไหนแต่ Steve Jobs ก็ให้ความสำคัญกับการนำเสนอสินค้ามากเช่นกัน เราก็คงเห้นแล้วว่าพลังในการนำเสนอนั้นมีผลทำให้สินค้าและการขายของ Apple พุ่งทยานแค่ไหน

 

ไม่จำเป็นต้องเป็นคนแรกแต่ต้องเป็นคนที่ดีที่สุด

 

สินค้าหลายอย่างของ Apple ไม่ใช่สินค้าที่ Apple เป็นคนคิดเป็นคนแรก  เพราะสินค้าในโลกนี้มีอยู่มาแล้วมากมาย แต่การทำให้ต่างและดีกว่านี่สิ คือประโยชน์ที่ผ๔บนิโกคจะได้รับจากสินค้าของเรา อย่างไก่ทอด ก็เป็นอาหารที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่เราจะกินแค่ไก่ทอดของ KFC อย่างเดียวเหรอ? ก็ไม่ใช่เพราะมนุษย์ต้องการความแปลกใหม่เสมอ เราเลยได้เห็นไก่ทอด Texas ไก่ทอดบอนชอน ไก่ทอด Mcdonale และอื่น ๆ อีกมากมายในท้องตลาด และนอกจากจะทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากที่มีอยู่เดิมแล้ว Jobs ยังเตือนให้เราทำออกมาให้ดีที่สุดด้วย

 

คิดสิ่งใหม่อยู่เสมอ

 Apple เชื่อว่าเมื่อไหร่ที่หยุดคิดสิ่งใหม่ เมื่อนั้นคือจุดจบของธุรกิจ แม้วัจจุบันนี้ Apple จะครองตำแหน่งแบรนด์อันดับ 1 แต่พวกเขาไม่เคยหยุดคิดที่จะสร้างสินค้าใหม่ ๆ ออกมาในตลาดอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง ร้านอาหารต่าง ๆ ที่เราคุ้นชื่อกันดี ส่วนมากเมื่อขึ้นเดือนใหม่แต่ละเจ้าก็จะคิดเมนูอาหารใหม่ ๆ ออกมาเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกตื่นเต้น เช่น หน้ามะม่วง ก็เพิ่มอาหารที่มีส่วนประกอบของมะม่วงลงไป นอกจากจะทำให้ร้านดูแปลกใหม่ ยังเป็นการทำการตลาดที่ดีอีกอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อมีเมนูใหม่ปรากฏขึ้นมา ก็สามารถเรียกลูกค้าให้เข้ามาลองชิมได้เพิ่มเช่นกัน

 

เมื่อเห็นปรัชญาในการทำงานของ Steve Jobs และ Apple แล้ว เราคงไม่ต้องสงสัยว่าเลยว่าทำไม Apple ถึงได้ครองความยิ่งใหญ่มายาวนาน แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เราจะนำปรัชญาและแนวคิดเหล่านี้มาใช้กับธุรกิจของเราได้อย่างไร นี่ต่างหากคือสิ่งที่เราต้องกลับไปทำเพื่อธุกินร้านอาหารของเรา

เนื้อหาส่วนหนึ่งจากหนังสือ : หนังสือวิชาธุรกิจ ที่ชีวิตจริงเป็นคนสอน 2